“พาณิชย์”เผยความคืบหน้าโครงการพาณิชย์ลดราคาปุ๋ยเคมีเพื่อเกษตรกร ปี 2568 ล่าสุดเกษตรกรสนใจสั่งซื้อปุ๋ยแล้วกว่า 6 แสนกระสอบ ครอบคลุมพืชทุกชนิด ทั้งนาข้าว พืชไร่ พืชสวน ไม้ผล ไม้ดอกไม้ประดับ ขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกร สั่งซื้อได้ผ่านสถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิก พร้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดทุกช่วงการค้า ป้องกันฉวยโอกาส
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคาปุ๋ยเคมีเพื่อเกษตรกร ปี 2568 ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้เริ่มคิกออฟมาตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.2568 ว่า ขณะนี้เกษตรกรให้ความสนใจสั่งซื้อปุ๋ยแล้วกว่า 6 แสนกระสอบ ครอบคลุมพืชทุกชนิด ทั้งนาข้าว พืชไร่ พืชสวน ไม้ผล ไม้ดอกไม้ประดับ โดยเป็นการสั่งซื้อผ่านสถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิก อาทิ กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. วิสาหกิจชุมชน ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน โดยสถาบันเกษตรกรจะเป็นผู้รวบรวมยอดสั่งซื้อ และประสานกับกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อเชื่อมโยงปุ๋ยราคาถูกไปยังพื้นที่ของเกษตรกร
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์) ผู้ผลิต ผู้นำเข้าปุ๋ยเคมี จำนวน 26 บริษัท จาก 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ลดราคาปุ๋ยเคมีจำนวน 79 สูตร ครอบคลุมพืชทุกชนิด ส่วนลดเฉลี่ยกระสอบละ 20-50 บาท บาท รวมปริมาณ 10.06 ล้านกระสอบ (503,000 ตัน) เริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.2568 จนถึง 30 ก.ย.2568
“ขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกร เข้าร่วมสั่งซื้อในโครงการ เพื่อเป็นการลดภาระต้นทุนการผลิต ในช่วงฤดูเพาะปลูกที่กำลังจะมาถึง โดยเกษตรกรที่สนใจสามารถสั่งซื้อปุ๋ยในโครงการผ่านสถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิก หรือติดตามข้อมูลรายละเอียดปุ๋ยที่ลดราคาได้ที่เว็บไซต์ www.dit.go.th รวมถึงพาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด และสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ”
นายวรวงศ์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังได้เน้นย้ำให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์ปริมาณและราคาปุ๋ยอย่างใกล้ชิดตลอดทุกช่วงการค้า เพื่อให้ราคาจำหน่ายเหมาะและสมสอดคล้องกับสถานการณ์การผลิตและการจำหน่าย และทบทวนโครงสร้างต้นทุนให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องเกษตรกร หากพบการฉวยโอกาส นอกจากจะมีโทษตามกฎหมาย จำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วยังจะถูกเพิกถอนหรือระงับการเป็นตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย ส่วนเกษตรกร หากไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือพบการกระทำผิดดังกล่าว สามารถแจ้งหรือร้องเรียนที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี