เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ ได้นำทีมพาณิชย์ ประกอบด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จัดกิจกรรมเชื่อมโยงผลไม้จากแหล่งผลิตออกนอกแหล่งผลิต เพื่อแก้ปัญหาความเดือนร้อนให้กับเกษตรกรชาวสวนผลไม้
นายจตุพร กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน และยังเป็นภารกิจแรกหลังการเข้ามารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ สำหรับการดำเนินการนี้ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าระยะสั้น โดยกรมการค้าภายใน ได้นำผู้ประกอบการ ทั้งห้างค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ สถานีบริการน้ำมัน และไปรษณีย์ไทย เข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตมังคุดในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จำนวนกว่า 2,200 ตัน เพื่อนำไปจำหน่ายยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว จะหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และตั้งเป้าไว้ว่าสถานการณ์มังคุดจะคลี่คลายลงใน 2 สัปดาห์ ผ่านกลไกความร่วมมือของทุกภาคส่วน ด้วยนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย”
ทั้งนี้คาดการณ์ผลผลิตมังคุดภาคใต้ ปี 2568 จะมีปริมาณ 109,697 ตัน เป็นผลผลิตของ จ.นครศรีธรรมราช ปริมาณ 40,063 ตัน โดยขณะนี้ผลผลิตได้เริ่มออกสู่ตลาดแล้วกว่า 40% โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้มีแผนและมาตรการรองรับผลผลิตในส่วนของภาคใต้รวมกว่า 64,000 ตัน ผ่านมาตรการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงเข้าสู่ตลาดของผู้บริโภคโดยการรับซื้อจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ที่ตั้งเป้าการรับซื้อกว่า 6,000 ตัน กิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ “Thai fruit festival 2025” และห้างซุปเปอร์ชีปทั่วภาคใต้ กว่า 2,000 ตัน เชื่อมโยงมังคุดภาคใต้ผ่านห้างค้าปลีกค้าส่ง ปริมาณ 6,000 ตัน ประสานผู้ส่งออกเร่งเข้ารับซื้อผลไม้ภาคใต้ในพื้นที่ ตั้งเป้ามังคุดนครศรีธรรมราช วันละ 300 ตัน รวมกว่า 15,000 ตัน เพิ่มศักยภาพและส่งเสริมสภาพคล่องให้ผู้รวบรวมรับซื้อผลไม้เพื่อส่งออก ทั้งทุเรียนและมังคุดปริมาณรวม 35,000 ตัน
นายจตุพร กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการการกระจายผลผลิตมังคุดนครศรีธรรมราช ไปสู่ผู้บริโภค โดยจะปล่อยคาราวานมังคุดของพี่น้องเกษตรกรจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนของพี่น้องเกษตรกรใน จ.นครศรีธรรมราช ทั้งหมด 4 กลุ่ม ใน 3 อำเภอ ได้แก่ พรหมคีรี ฉวาง และท่าศาลา จำนวนรถ 13 คัน มังคุดรวมกว่า 40 ตัน มูลค่ากว่า 1,050,000 บาท โดยนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งในมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ทั้งหมดที่จะช่วยพี่น้องเกษตรกรนครศรีธรรมราช ให้ผลไม้ของท่านมีแหล่งจำหน่ายโดยกระจายไปในที่ต่างๆทั่วประเทศ
“สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้ คือ ความร่วมมือกันในการช่วยเหลือกัน ผมในฐานะรมว.พาณิชย์ จะดำเนินนโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย ให้เกิดขึ้นจริง เพื่อให้คนไทยได้สนับสนุนช่วยเหลือกัน เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง และสร้างรอยยิ้มให้พี่น้องทุกครอบครัว ผมเชื่อมั่นว่า หากเราร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องเกษตรกร จะก้าวข้ามทุกอุปสรรคไปด้วยกันได้”นายจตุพร กล่าว
ขณะเดียวกันที่กระทรวงพาณิชย์ นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการวันแรก โดยเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์
นายฉันทวิชญ์ กล่าวว่าได้หารือเบื้องต้นเกี่ยวกับการแบ่งงานภายในกระทรวง โดยจะรอการลงนามมอบหมายงานอย่างเป็นทางการจากรมว.พาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้าซึ่งในเบื้องต้นได้รับมอบหมายให้ดูแลงานด้านต่างประเทศเป็นหลัก
“ภารกิจด้านต่างประเทศถือเป็นเรื่องที่ท้าทายและมีข้อจำกัดด้านเวลา โดยเฉพาะในประเด็นความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องใหญ่ แต่พร้อมที่จะเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ การเจรจาที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมาก ทั้งกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ต่างมีแผนที่ชัดเจน ผมมั่นใจว่าเราจะเจรจาเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ”นายฉันทวิชญ์ กล่าว
สำหรับ 3 ภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทันที ได้แก่ 1.การเจรจาการค้า ทั้งในระยะสั้น เช่น การขอลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนไทยได้รับประโยชน์สูงสุด รวมถึงการเจรจาในระยะกลาง เช่น ความตกลง FTA กับสหภาพยุโรปและเกาหลีใต้ ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างมาก และจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทยในระยะยาวกลางและยาว
2.การวางรากฐานให้ธุรกิจไทยแข่งขันได้ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ พร้อมร่วมทีมกับรมว.พาณิชย์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เพื่อนำพาธุรกิจไทยสู่การแข่งขันอย่างยั่งยืน
3.ดูแลราคาสินค้าเกษตร โดยให้ความสำคัญกับเสถียรภาพด้านราคา และการสร้างความมั่นคงให้แก่เกษตรกร
ทั้งนี้ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 นายฉันทวิชญ์ จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ร่วมคณะกับ รมว.พาณิชย์ เพื่อประชุมและติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน ณ ด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมการค้าชายแดน จังหวัดหนองคาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี