ส่งออกสินค้าไทยภายใต้ CBAM ของ EU ครึ่งปีแรกโต 29.08%

ส่งออกสินค้าไทยภายใต้ CBAM ของ EU ครึ่งปีแรกโต 29.08%

วันอาทิตย์ ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.51 น.

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลการส่งออกสินค้าไทยภายใต้มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism : CBAM) ของสหภาพยุโรป (EU) ท่ามกลางกระแสการค้าโลกที่มุ่งสู่ความยั่งยืน โดยการส่งออกสินค้าของไทยภายใต้มาตรการ CBAM พลิกกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2568 เติบโตถึง 29.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับภาพรวมปี 2567 ที่หดตัว 5.68% เป็นสัญญาณบวกชี้ให้เห็นศักยภาพและความสามารถในการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ก่อนที่มาตรการ CBAM จะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 มกราคม 2569

ทั้งนี้มาตรการ CBAM ครอบคลุม 6 กลุ่มสินค้า คือ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียมและของทำด้วยอะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย ไฟฟ้า และไฮโดรเจน โดยในช่วง 6 เดือนแรกปี 2568 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้มาตรการ CBAM ไป EU รวมมูลค่า 203.63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 29.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไทยมีการส่งออกไป EU เพียง 2 กลุ่มสินค้า คือ เหล็กและเหล็กกล้า ,อะลูมิเนียมและของทำด้วยอะลูมิเนียม โดยมีมูลค่าการส่งออก ดังนี้


1.เหล็กและเหล็กกล้า เป็นหัวหอกสำคัญขับเคลื่อนการเติบโต ด้วยมูลค่าส่งออก 169.78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (สัดส่วน 83.38% ของการส่งออกสินค้า CBAM ทั้งหมดจากไทยไป EU) ขยายตัวสูงถึง 40.36% โดยการเติบโตนี้สวนทางกับภาพรวมการส่งออกเหล็กและเหล็กกล้าของไทยไปตลาดโลกที่หดตัว 15.19%  แสดงให้เห็นว่าสินค้าเหล็กของไทยมีความสามารถในการแข่งขันและเป็นที่ต้องการของตลาด EU  ที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม

2.อะลูมิเนียมและของทำด้วยอะลูมิเนียม มีมูลค่าส่งออก 33.85 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ(สัดส่วน 16.62% ของการส่งออกสินค้า CBAM ทั้งหมดจากไทยไป EU) หดตัว 7.99% หดตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า สวนทางกับการส่งออกไปโลกที่ขยายตัว 17.24%

โดยมาตรการ CBAM เป็นกลไกสำคัญของนโยบาย “European Green Deal” ที่ EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง แม้ปัจจุบัน การส่งออกกลุ่มสินค้าที่อยู่ภายใต้กฎหมาย CBAM จากไทยไป EU จะยังมีสัดส่วนไม่สูงเมื่อเทียบกับการส่งออกไปโลก (ประมาณ 4.74% ของมูลค่าการส่งออกสินค้า CBAM จากไทยไปตลาดโลก) แต่การเติบโตที่แข็งแกร่งในช่วง 6 เดือนแรกปี 2568 ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมไทยเริ่มปรับตัว และมองเห็นโอกาสการแข่งขันในตลาดที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน

“การขยายตัวที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงการฟื้นตัวของยอดส่งออก แต่เป็นการยืนยันและแสดงถึงโอกาสและศักยภาพของไทยที่จะสามารถปรับตัวและส่งออกสินค้า CBAM ไป EU ได้มากขึ้นในอนาคต การเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่เพียงเป็นความท้าทาย แต่เป็นโอกาสสำหรับไทยที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าและสร้างความยั่งยืนในการทำธุรกิจ และสามารถใช้มาตรการ CBAM สร้างแต้มต่อให้ไทยแข่งขันได้แข็งแกร่งขึ้นในเวทีการค้า”นายพูนพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 มาตรการ CBAM จะเข้าสู่ช่วงบังคับใช้เต็มรูปแบบ ซึ่งผู้นำเข้าจะต้องซื้อและส่งมอบ “CBAM Certificate” ตามปริมาณการปล่อยคาร์บอนของสินค้าที่นำเข้า ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยอาจต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นในการตรวจสอบข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่การผลิต ดังนั้นเพื่อเปลี่ยนความท้าทายเป็นโอกาสในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน

โดยผู้ประกอบการไทยควรศึกษาทำความเข้าใจหลักการของ CBAM และเตรียมความพร้อมในการคำนวณและจัดทำข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้า (Embedded Emission) ยกระดับการผลิต โดยอาจลงทุนในเทคโนโลยีสะอาดหรือปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน แสวงหาการสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งพร้อมให้การสนับสนุนทั้งด้านองค์ความรู้ และด้านการเงิน ตลอดจนขยายตลาดเชิงรุก โดยการพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเจาะตลาดใหม่ๆที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความยั่งยืน ไม่ใช่แค่ใน EU แต่รวมถึงสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ที่กำลังพิจารณาใช้มาตรการในลักษณะเดียวกัน

“การปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาตลาดยุโรปไว้ได้ แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสทางการค้าในเวทีโลกยุคใหม่ที่ความยั่งยืน คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ”นายพูนพงษ์ กล่าว

-033

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top