nn บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ....เป็นตัวช่วยของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้ง่ายขึ้น โดยทำหน้าที่ค้ำประกันสินเชื่อเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์กล้าที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของ บสย.อยู่กว่า 8 แสนราย จากเอสเอ็มอีที่มีอยู่ทั้งระบบ 3.2 ล้านราย
ล่าสุดคุณสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้กล่าวถึงภาพรวมผลดำเนินงาน บสย. 11 เดือน ณ 24 พ.ย. 2566 โดยระบุว่าสำเร็จตามเป้าทั้งด้านการค้ำประกันสินเชื่อ การแก้หนี้ ผ่าน “บสย. พร้อมช่วย” การให้คำปรึกษาทางการเงิน SMEs มีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยผลดำเนินงานการค้ำประกันสินเชื่อ อนุมัติค้ำประกันวงเงิน 107,179 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ได้สินเชื่อ 96,461 ราย (80% ของจำนวนราย SMEs เป็นผู้ประกอบการกลุ่ม Micro)สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 442,649 ล้านบาท สร้างสินเชื่อในระบบ 117,597 ล้านบาทรักษาการจ้างงาน 811,239 ตำแหน่ง มีฐานลูกค้าSMEs สะสมรวมกว่า 815,312 ราย จำแนกสัดส่วนการค้ำประกันสินเชื่อรายภูมิภาค อันดับ 1 กรุงเทพฯและปริมณฑล 45% อันดับ 2ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15% อันดับ 3 ภาคใต้13% อันดับ 4 ภาคเหนือ 11% อันดับ 5 ภาคตะวันออก 9% อันดับ 6 ภาคกลาง 4% และ อันดับ 7 ภาคตะวันตก 3%
กลุ่มอุตสาหกรรมค้ำประกันสูงสุด ได้แก่ 1.ธุรกิจบริการ สัดส่วนการค้ำ 30% วงเงิน 32,113 ล้านบาท (รับเหมา ภัตตาคาร ร้านอาหาร ธุรกิจขนส่งโรงแรมและหอพัก บริการท่องเที่ยว) อัตราการเติบโต 3% 2.การผลิตสินค้าและการค้าอื่น ธุรกิจการค้า สัดส่วนการค้ำ 11% วงเงิน 11,378 ล้านบาท (การค้าวัสดุ ก่อสร้าง การค้าปลีกและแผงลอยและตลาดสด การค้าอื่นๆ 19% การผลิตอื่นๆ 14%ค้าของเก่าและโทรศัพท์มือถือ) 3.เกษตรกรรม สัดส่วนการค้ำ 10% วงเงิน 10,652 ล้านบาท (ค้าส่งผักและผลไม้ การค้าชากาแฟ การค้าสินค้าเกษตรอื่นๆ ปศุสัตว์ การค้าส่งข้าว) 4.กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม 5.กลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค ซึ่งเป็นภาคธุรกิจการบริโภคในประเทศ ในภาคท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง ครองสัดส่วนการค้ำประกัน 68%
ด้านการช่วยลูกหนี้ แก้หนี้ยั่งยืน “บสย. พร้อมช่วย” ผ่านมาตรการ 3 สี มีลูกหนี้ บสย. ได้รับการประนอมหนี้ 12,580 ราย วงเงินรวม 4,652ล้านบาท และมีผู้ประกอบการ SMEs ลงทะเบียนขอรับคำปรึกษาและร่วมอบรม ผ่านศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs หรือ บสย. F.A.Center จำนวน 15,885 ราย คิดเป็นสัดส่วนความสำเร็จในการเข้าถึงสินเชื่อจากการให้คำปรึกษา 16%
สำหรับแผนงานปี 2567 บสย. พร้อมเดินหน้าตามกรอบแผนวิสาหกิจ ตามยุทธศาสตร์องค์กรและกลยุทธ์เชิงรุก TCG Fast Firstเดินหน้า เดินหน้าการขับเคลื่อนองค์กรด้วย Digital Technology ในเฟส 2 การพัฒนา Digital Guarantee Platform สู่ SMEs Gateway วางบทบาท กองหน้า กองกลาง และกองหลัง ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
กองหน้า คือมุ่งสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs ครบวงจรผ่านศูนย์ที่ปรึกษา SMEs (บสย.F.A.Center) การยกระดับปรับโฉมสำนักงานเขตสู่โมเดลใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้ประกอบการ SMEs สอดรับยุทธศาสตร์ มุ่งสู่การเป็น Credit Mediatorเพิ่มบทบาทการเป็นตัวกลางเชื่อมโยง SMEs ให้เข้าถึงแหล่งทุนและขยายบทบาทการค้ำประกันผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม นำร่องสาขาชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา พร้อมเปิดตัวภายในไตรมาสแรก ปี 2567
กองกลาง ประกอบด้วย 1.พัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ ตอบโจทย์การเข้าถึงสินเชื่อ เทรนด์ธุรกิจ กลุ่ม Start up และผู้ประกอบการ SMEs รายเซกเมนต์ อาทิ กลุ่มรายย่อย กลุ่มอาชีพอิสระ กลุ่มผู้ประกอบการนิติบุคคลผู้ประกอบการที่ปรับกลยุทธ์สู่ธุรกิจยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม 2.พัฒนา Digital Platform เดินหน้าเฟส 2 Digital Guarantee Platform เชื่อมโลกการเงิน เชื่อมโยงระบบการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. สู่ระบบนิเวศทางการเงิน (Ecosystem) อาทิ การพัฒนาระบบร่วมกับโครงการ PromptBiz, TrustBiz Connext ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs รายย่อย ในการขอสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และ สถาบันการเงินผ่านแพลตฟอร์ม Digital Lending การค้ำประกันสินเชื่อ พร้อมยกระดับบริการ LINE OA @tcgfirst ให้ดียิ่งขึ้น
กองหลัง เพิ่มมาตรการความช่วยเหลือลูกหนี้ แก้หนี้อย่างยั่งยืน โดย บสย. ได้ขยายมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ต่อเนื่องอีก 1 ปี ตอกย้ำความสำเร็จโครงการนอกจากนี้ บสย. ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการนำเสนอมาตรการต่อยอดการช่วยลูกหนี้อย่างยั่งยืนในมาตรการ 3 สี ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นการต่อยอดความช่วยเหลือลูกหนี้สามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้น ตามเป้าหมายแก้หนี้ยั่งยืน “ผ่อนน้อย เบาแรง ปิดหนี้เร็ว” ซึ่งขณะนี้บสย. อยู่ในขั้นตอนการนำเสนอเพื่อพิจารณา
สำหรับการดำเนินโครงการตามนโยบายรัฐบาล “หนี้นอกระบบ เป็นวาระแห่งชาติ” บสย.อยู่ในระหว่างดำเนินการเสนอขอขยายวงเงินโครงการ PGS 10 เตรียมพร้อมช่วยลูกหนี้ และกลุ่มอาชีพอิสระ เพื่อช่วยกลุ่มลูกหนี้ SMEs ที่ใช้เงินทุนนอกระบบ โดยใช้กลไกค้ำประกันสินเชื่อร่วมกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการของรัฐบาล มั่นใจช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยบรรเทาลูกหนี้จากการเป็นหนี้นอกระบบ
นอกจากนี้ บสย.ได้เตรียมพร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน : TCG Sustainability BCG-ESG (Environment / Social/Government) ภายใต้แกนหลัก “ค้ำประกันสินเชื่อ” มีผู้ประกอบการ SMEs เป็นศูนย์กลาง ได้แก่ 1.เพิ่มโอกาสและเติมเต็มศักยภาพทางการเงิน เข้าถึงแหล่งทุนเพิ่มมากขึ้น 2.เพิ่มความรู้ เติมความเข้าใจ ยกระดับการให้คำปรึกษาทางการเงินและธุรกิจ และการช่วยลูกหนี้ สร้างโอกาสทางธุรกิจ จากโครงการจับคู่ธุรกิจ เชื่อมโยงผู้ประกอบการในรูปแบบ Business Matching 3.เพิ่มบทบาทการช่วยลูกหนี้แก้หนี้ยั่งยืน ทั้งนี้ ภายใต้ บทบาทด้านการค้ำประกัน SMEs บสย. มีสัดส่วนค้ำประกันสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 6 ปี ตั้งแต่ปี 2562 คาดว่าในปี 2566 สัดส่วนการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน เพิ่มเป็น 28% ของยอดค้ำประกันสินเชื่อวงเงิน 1,486,812 ล้านบาท
อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี