นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพดำเนินยุทธศาสตร์ Connecting
ASEAN หรือ เชื่อมโยงอาเซียน ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment) เข้าสู่ประเทศไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนระยะยาว รวมทั้งนโยบายสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม ส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green -BCG) และการยกระดับของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EasternEconomic Corridor - EEC) ให้เป็นศูนย์กลางอัจฉริยะสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ยุทธศาสตร์สำคัญประการหนึ่งที่ธนาคารมุ่งเน้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา คือ การสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสำหรับหลายภาคอุตสาหกรรม ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวลง จากปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัจจัยอื่นๆ การดำเนินยุทธศาสตร์ Connecting ASEAN หรือ เชื่อมโยงอาเซียน ของธนาคาร มุ่งสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยชูบทบาทโดดเด่นของไทยในฐานะสะพานสำคัญที่จะช่วยเชื่อมโยงอาเซียนกับนักธุรกิจและนักลงทุนจากทั่วทวีปเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก
“อาเซียนยังเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจสามารถเติบโตได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ด้วยจุดเด่นหลายๆ ด้าน เช่น จำนวนประชากรรวมกันกว่า 650 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ตลาดที่กำลังพัฒนาและมีความต้องการหลากหลาย มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ใกล้อินเดียและจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยอาเซียนกำลังเติบโตก้าวขึ้นเป็นระบบเศรษฐกิจที่จะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกในปี 2573 และยังมีโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนอีกมาก ขณะที่ตลาดอื่นๆ ทั่วโลกกำลังชะลอตัว ธนาคารกรุงเทพเป็นธนาคารไทยที่มีความพร้อมที่สุด สำหรับการสนับสนุนบริษัทที่ต้องการขยายตลาดในระดับภูมิภาค เพราะมีเครือข่ายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก และมีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดีกับพันธมิตรในประเทศเหล่านั้น ที่สืบทอดมาตลอด 8 ทศวรรษ” นายชาติศิริกล่าว
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 8 ทศวรรษที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพมุ่งเน้นการสนับสนุนลูกค้าทุกกลุ่มให้บรรลุเป้าหมายในทุกช่วงชีวิตและเจริญเติบโตได้เต็มศักยภาพ โดยสำหรับลูกค้าบุคคล ให้มีความมั่นคงทางการเงินสำหรับครอบครัว และบริษัททุกขนาด ให้มีความสามารถในการแข่งขันและเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ซึ่งธนาคารได้ช่วยลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ด้วยบริการทางการเงินและเงินทุนสำหรับการดำเนินธุรกิจ แบ่งปันข้อมูล คำแนะนำและสายสัมพันธ์ทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์ ทำให้ลูกค้าสามารถเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศ ส่วนหนึ่งสามารถขยายกิจการออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนและทวีปเอเชียที่ธนาคารมีเครือข่ายสาขาอย่างกว้างขวางครอบคลุม
“ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่แล้ว ยังมีลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารจำนวนไม่น้อย ที่มีการค้าขายข้ามชายแดนมากขึ้น หลายรายสามารถขยายกิจการออกไปต่างประเทศ โดยการสนับสนุนจากสาขาในต่างประเทศของธนาคารกรุงเทพ รวมทั้งธนาคารในเครือ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจของประเทศไทย”นายชาติศิริ กล่าว
นายชาติศิริกล่าวอีกว่า ธนาคารกรุงเทพตระหนักดีว่า นอกจากลูกค้ากลุ่มที่มีความเข้มแข็งและพร้อมคว้าโอกาสใหม่ๆ แล้ว ยังคงมีลูกค้าอีกส่วนหนึ่งที่ยังเปราะบาง สืบเนื่องมาตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 และยังไม่ฟื้นตัวในภาวะที่เศรษฐกิจโดยรวมยังชะลอตัวลง ธนาคารกรุงเทพในฐานะ“เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” จะพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อช่วยลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและลูกค้าบุคคล ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ให้สามารถผ่านช่วงนี้ไปได้ ตามแนวทางเดียวกับที่ธนาคารได้ดำเนินการมาแล้วในช่วงก่อนหน้า ที่กิจกรรมทางธุรกิจได้ชะงักงันเนื่องจากโควิด-19 ในปี 2563 และต่อเนื่องถึงปี 2566
“ท่ามกลางความผันผวนทางธุรกิจในระบบเศรษฐกิจโลก ธนาคารกรุงเทพพร้อมดำเนินการเพื่อสนับสนุนลูกค้าให้สามารถผ่านความท้าทายและความยากลำบากเหล่านี้ และสามารถแสวงหาโอกาสที่เหมาะสมสำหรับสร้างการเติบโต โดยจะดำเนินการอย่างสอดรับกับรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้ดำเนินนโยบายทางการเงินเพื่อช่วยดูแลเงินเฟ้อ และช่วยให้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น เพื่อให้บริษัทไทยสามารถฟันฝ่าอุปสรรค ก้าวข้ามความท้าทายที่รออยู่ และเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี