นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) เปิดเผยว่า ประเมินเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีความไม่แน่นอนและความเสี่ยงจากปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มีการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปีนี้เหลือ 2% จากคาดการณ์เดิม 3% เพราะแรงซื้อการส่งออกจะลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง การท่องเที่ยวไทยลดลงกว่าคาดโดยจะอยู่ที่ 35.5 ล้านคน ปัญหามาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐ แผ่นดินไหว และความไม่แน่นอนของการเมืองไทย ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆอาจล่าช้า หากมองกรณีเลวร้ายมีปัจจัยรุนแรงมากขึ้นจีดีพีไทยอาจเหลือแค่ 1.5% ในปีนี้
ทั้งนี้ยอมรับว่าสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเวลานี้มีปัญหา แต่จะช่วยให้ลูกค้าผ่านไปได้อย่างไร โดยพบว่ายอดรูดบัตรเครดิตติดลบ และบางสินค้าขายไม่ดี ร้านอาหารคนเข้ามาน้อยลง รวมทั้งยังมีผู้ประกอบการปิดร้านอาหาร ปิดธุรกิจ ปิดโรงงาน ในสถานการณ์เช่นนี้ผู้ที่ทำธุรกิจควรประคับประคองตัวเอง และปรับสู่ยุคใหม่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนสูงอาจมีความเสี่ยงด้านลบดูทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ภาษีสหรัฐ และสงครามอิหร่าน-อิสราเอล โดยความขัดแย้งในโลกมีความไม่แน่นอนสูงมากขึ้น
นอกจากนี้จากความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้นักธุรกิจชะลอลงทุน เพื่อเก็บสภาพคล่องไว้ มองว่าไทยควรสร้างโมเมนตัม โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรลดดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 1-2 ครั้ง จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.75% เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยมีแรงส่ง และถ้าหากในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว เศรษฐกิจไทยจะพอไปได้ เพราะถ้าเครื่องยนต์ดับไปทีละเครื่อง และถ้าเครื่องบินเริ่มตกลง จะเหยียบคันเร่งตอนนั้นก็ลงไม่ทัน
“มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง. ยังมีช่องที่จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ เพราะดอกเบี้ยนโยบายของเราอยู่ที่ 1.75% หากลดลงครั้งละ 0.25% รวมเป็น 0.5% ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปีอยู่ที่ 1.25% เพราะวันนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันประคับประคองประเทศ เหมือนถ้าผมเป็นนักบิน เครื่องยนต์ค่อยๆ ดับลงไปที่ละเครื่อง ผมไม่อยากให้เครื่องตก ก็ต้องเร่งเครื่องยนต์ที่มีอยู่ ถ้าไม่ทำรอให้ใกล้ตก แล้วไปเร่งเครื่องอาจจะไม่ทัน ซึ่งก็คงต้องฝากผู้ว่าการธปท.คนใหม่ด้วย”
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ประเมินสถานการณ์การเมืองไทยในเวลานี้ ยังเร็วเกินไปที่จะมองว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร และจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร แต่รู้แค่ว่าในตอนนี้มีปัจจัยท่ามกลางความผันแปรของโลกที่สามารถประเมินได้ โดยต้องเตรียมรับมือ เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. สามารถทำโปรโมชันเพื่อทำการสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย และอยากให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาให้ภาคส่งออก เช่น การช่วยหาตลาดใหม่ และต้องการให้มีมาตรการหรือแรงจูงใจเพื่อดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุนโดยตรง หรือเอฟดีไอ ให้มากขึ้นด้วย
“ขณะนี้ภาคธุรกิจมีความกังวลใจเพราะมีปัจจัยเสี่ยงในประเทศ จากความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้ชะลอลงทุน และเฝ้าดูการตัดสินใจ อีกทั้งไทยเองยังเจอปัญหาสินค้าจีนไหลเข้ามาในไทย เพราะจีนส่งสหรัฐไม่ได้ ก็ส่งออกไปประเทศอื่นขณะที่การส่งออกไทยมีออเดอร์ไปมากในช่วงครึ่งปีแรก แต่ครึ่งปีหลังอาจไม่ดี ควรหาทางเจรจาการค้าอื่นๆ และจะทำอย่างไรให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี