วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เลิกงุ่มง่ามได้แล้วรัฐบาล

เศรษฐศาสตร์วันหยุด : เลิกงุ่มง่ามได้แล้วรัฐบาล

วันอาทิตย์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 09.25 น.
Tag : ข่าวเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทย เศรษฐศาสตร์วันหยุด
  •  

nn ตอนนี้พูดถึงเศรษฐกิจไทยก็ไม่มีใครกล้าพูดว่ามัน“อู้ฟู่”สมกับเป็นรัฐบาลของเพื่อไทย...แต่ก็ต้องบอกว่าอย่างนี้ครับว่ารัฐบาลนั้นยังมีเวลาเหลืออีกเยอะในการพิสูจน์ฝีมือ...ในการทำให้เศรษฐกิจมันดีด้วยการเดินหน้าลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออัดเม็ดเงินเข้าระบบ(นอกจากความจะดึงดันอัดเม็ดเงินร้อนๆจาก Digital Wallet)...

แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีเม็ดเงินงบประมาณในมือ แต่โครงการเดิมที่มีอยู่ก็ควรจะเร่งผลักดันก็ได้นี่ครับ..เช่นว่า 1.โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย -จีน ที่ เฟส 1 กรุงเทพฯ-โคราช ระยะทาง 253 กม. ยัง “อืดเป็นเรือเกลือ”เปิดหวูดก่อสร้างกันมากว่า 6 ปีเพิ่งจะมีความคืบหน้าไปได้แค่สัญญาเดียว(จาก 14 สัญญา) หรือคืบหน้าแค่ 20-25% เท่านั้น...ขืนยังปล่อยไปตามยถากรรมแบบนี้ ไม่ต้องไปฝันถึงโครงการในเฟส 2 โคราช-หนองคาย ระยะทาง 356 กม.ที่จะไปเชื่อมกับรถไฟความเร็วสูง ลาว-จีน ที่เริ่มต้นก่อสร้างมาพร้อมกับประเทศไทยเราแต่ของเขานั้นเปิดให้บริการกันไปแล้วตั้งแต่ปลายปีก่อน 2565


2.โครงการรถไฟความเร็วสูง “ไฮสปีดเทรน” เชื่อม 3 สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) มูลค่า 2.24 แสนล้าน ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ให้สัมปทานแก่ บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ของกลุ่มทุนเจ้าสัวซีพี ตั้งแต่ปีมะโว้ 2562 แต่ผ่านมาจนวันนี้กว่า 4 ปีเข้าไปแล้ว ก็ยังไม่เริ่มต้นก่อสร้างทำท่าจะเจริญรอยตามโครงการโฮปเวลล์ในอดีตไปอีกโครงการ 3. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก2.9 แสนล้าน อีกโครงการเมกะโปรเจกท์ในมือกระทรวงคมนาคมที่ยังคงรอความชัดเจนด้านนโยบายจากรัฐบาล รวมทั้งความชัดเจนของกระทรวงคมนาคมต่อการผลักดันท่าอากาศยานนานาชาติแห่งที่ 3 คือ สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก

4.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่า 1.42 แสนล้านของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่เปิดประมูลกันมาตั้งแต่ปี’63 ผ่านมากว่า 3 ปีก็ยังปิดบัญชีไม่ลงแม้รฟม.จะตั้งแท่นเสนอผลประกวดราคา ที่อ้างว่าบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้ชนะประมูลเพื่อให้กระทรวงคมนาคม เสนอผลประกวดราคาต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เสียที แต่จนแล้วจนรอดผ่านมากว่า 5 เดือน กระทรวงคมนาคมก็ยังไม่กล้าตัดสินใจสักที 5. อีกเมกะโปรเจกท์ ที่สามารถ Drive เศรษฐกิจให้เติบโตไปได้ โดยที่รัฐบาลไม่ต้องลงทุนก็คือ การผลักดันอุตสาหกรรมโทรคมนาคมให้เดินหน้าเต็มสูบเช่นในอดีตเมื่อปี 2563 ที่มีการจัดประมูลคลื่นความถี่ 5G ใน 3 คลื่นหลักคือ700 MHz, 260 MHz และ 26 GHz ที่ไม่เพียงจะนำเงินเข้ารัฐได้มากกว่า 1 แสนล้านบาททั้งยังก่อให้เกิดการลงทุนในโครงขายโทรคมนาคม 5G ตามมาอีกนับแสนล้าน แต่หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ชุดปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่ แทนที่อุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม จะเติบใหญ่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจก็กลับฉุดรั้งให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไร้ทิศไร้ทางการปรับโครงสร้างองค์กรกำกับดูแล เพื่อให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการไหลบ่าเข้ามาของ Platform ใหม่ๆ ที่ควรจะเกิดขึ้นนานแล้วยังคงไม่มีความคืบหน้า การแสวงหาหนทางในอันที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ ยังคงไม่เกิดขึ้น..ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะองค์กรกำกับดูแลคือ กสทช.เต็มไปด้วยความขัดแย้ง...

ส่วนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ “แลนด์บริดจ์” มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาทนั้น ยังเป็นเรื่องไกลตัวที่รัฐจะทุ่มเทลงไปให้การสนับสนุนในเวลานี้ เอาแค่หวนกลับมาผลักดันโครงการที่มีอยู่เต็มหน้าตัก 5 โครงการข้างต้นเหล่านี้ ให้เป็นรูปธรรม ก็สามารถสร้าง competitiveness ของประเทศไทย เสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ หลังจากที่ห่างหายไปนานนับ 10 ปี ทั้งยังจะเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุนที่เป็น FDI อย่างแท้จริง หลังจาก ที่ในระยะหลายปีที่ผ่านมานั้น การลงทุนเริ่มบ่ายหน้าไปยัง เวียดนาม และอินโดนีเซียก่อนไทย

พงษ์พันธุ์

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เศรษฐศาสตร์วันหยุด : วิทัย รัตนากร ไม่มีวันอยู่ใต้อาณัติ...การเมือง เศรษฐศาสตร์วันหยุด : วิทัย รัตนากร ไม่มีวันอยู่ใต้อาณัติ...การเมือง
  • มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังเสี่ยง ปัจจัยการเมืองภายในกดดัน-ตลาดโลกผันผวน มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังเสี่ยง ปัจจัยการเมืองภายในกดดัน-ตลาดโลกผันผวน
  • เศรษฐศาสตร์วันหยุด : มีรัฐบาล...แบบนี้  พวกเราจะตายกันหมด เศรษฐศาสตร์วันหยุด : มีรัฐบาล...แบบนี้ พวกเราจะตายกันหมด
  • โครงการคุณสู้ เราช่วย ระยะที่ 2  มาแล้ว!! โครงการคุณสู้ เราช่วย ระยะที่ 2 มาแล้ว!!
  • ปัจจัยเสี่ยงกดดัน ศก. ธุรกิจชะลอลงทุนตุนสภาพคล่อง ปัจจัยเสี่ยงกดดัน ศก. ธุรกิจชะลอลงทุนตุนสภาพคล่อง
  • เศรษฐศาสตร์วันหยุด : นายกรัฐมนตรี คือศูนย์กลางของปัญหา เศรษฐศาสตร์วันหยุด : นายกรัฐมนตรี คือศูนย์กลางของปัญหา
  •  

Breaking News

รวบโจรเมียนมา สะเดาะกุญแจขโมยทองเพื่อน เผยได้วิชาจากบ้านเกิด

'น้าหงา'แซะนักการเมือง 'ยึดสภาหากิน' หวังให้ลูกหลานสืบทอด แต่เพื่อนกลับ'ลักตีกิน'กันเอง

'กาญจนบุรี'เจ้าภาพ จัดฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่51

ทนแรงกดดันไม่ไหว! 'รมว.แรงงานคิวบา'ประกาศลาออก เซ่นคำพูด'ประเทศนี้ไม่มีคนขอทาน'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved