วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
แบงก์รัฐผนึกกำลัง  จัดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้

แบงก์รัฐผนึกกำลัง จัดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้

วันเสาร์ ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : ธนาคารรัฐ แบงก์ ลูกหนี้
  •  

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง และผู้บริหารหน่วยงานและธนาคารเฉพาะกิจของรัฐภายใต้สังกัดกระทรวงการคลังร่วมแถลงข่าว “แบงก์รัฐลดก่อน ผ่อนภาระประชาชน” ณ กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567

นายพรชัย กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยยังเติบโตในอัตราชะลอตัวซึ่งคาดการณ์ว่าจะเติบโต 2.8% ในปี 2567ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ในระดับสูงที่ 2.5% ต่อปี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในระดับต่ำ และชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 แม้ส่วนหนึ่งเกิดจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานที่ลดลงตามมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ แต่โดยรวมเป็นการบ่งชี้ถึงกำลังซื้อภายในประเทศที่อ่อนแอ นอกจากนี้สถานการณ์ดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกกลุ่ม ทำให้มีภาระผ่อนชำระต่อเดือนเพิ่มขึ้น ขณะที่ศักยภาพในการหารายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลต่อต้นทุนการผลิต ทำให้ราคาสินค้ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กระทบขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคา กระทบการส่งออก และกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม


ดังนั้น รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ประชาชนและผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาหนี้ ทั้งระบบตามที่นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ และในครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวกันของแบงก์รัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชนภายใต้โครงการ“แบงก์รัฐลดก่อนผ่อนภาระประชาชน” โดยดำเนินการลดหรือตรึงดอกเบี้ย พร้อมทั้งจัดเตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงจนเกินไป

ซึ่งที่ผ่านมาแบงก์รัฐทุกแห่งได้ช่วยกันตรึงดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปี 2565และชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2566ถึงแม้ว่าดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นหลายครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ธนาคารออมสินได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate: MRR) ลง 0.15% ต่อปี ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีโครงการบ้าน ธอส. สุขสบาย เพื่อให้ลูกหนี้เดิมของ ธอส. สามารถยื่นขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงได้ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) มีโครงการสินเชื่อ SME Refinance เพื่อลดต้นทุนให้กับลูกหนี้ นอกจากนี้แบงก์รัฐทุกแห่งได้ช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้และลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่กลุ่มลูกหนี้รายย่อยและกลุ่มลูกหนี้ SMEs รวมทั้งมีมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับประชาชนและผู้ประกอบการทุกกลุ่ม

โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า “การรวมตัวของแบงก์รัฐเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในครั้งนี้ จะเป็นการส่งสัญญาณไปถึงสถาบันการเงินต่างๆ ให้หันมาช่วยเหลือลูกหนี้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น การลดดอกเบี้ย การพักหนี้การช่วยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยลดภาระให้ประชาชน เพิ่มสภาพคล่องมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจ กระตุ้นการบริโภคและการลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนและลดความเปราะบางทางเศรษฐกิจดังกล่าว นอกจากการขับเคลื่อนมาตรการของภาครัฐซึ่งเป็นมาตรการกึ่งการคลังแล้ว ยังต้องอาศัยการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินของทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ”

อนึ่ง สำหรับสถาบันการเงินรัฐที่เข้าร่วมในครั้งนี้ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แบงก์ชี้ เงินบาทยังคงแข็งค่า แต่ไม่สะท้อนความเป็นจริงที่ ศก.ยังอ่อนแอ แบงก์ชี้ เงินบาทยังคงแข็งค่า แต่ไม่สะท้อนความเป็นจริงที่ ศก.ยังอ่อนแอ
  • แบงก์คาดอสังหาฯซึมยาว อุปทานล้นตลาดสูง-กำลังซื้อต่ำ แบงก์คาดอสังหาฯซึมยาว อุปทานล้นตลาดสูง-กำลังซื้อต่ำ
  • แบงก์เตือนสติรัฐบาล  ‘ซื้อหนี้ประชาชน’เสี่ยงระบบพัง แบงก์เตือนสติรัฐบาล ‘ซื้อหนี้ประชาชน’เสี่ยงระบบพัง
  • ลูกหนี้มีเฮ!! \'พิชัย\'ลุยแก้หนี้เสียต่ำกว่า 1 แสนบาท คาดจะได้ใช้จริงภายใน 1 ปีนี้ ลูกหนี้มีเฮ!! 'พิชัย'ลุยแก้หนี้เสียต่ำกว่า 1 แสนบาท คาดจะได้ใช้จริงภายใน 1 ปีนี้
  • ทีทีบี ปักหมุด ช่วยลูกค้าปลดหนี้ ทีทีบี ปักหมุด ช่วยลูกค้าปลดหนี้
  • ธอส. เดินหน้าช่วยคนไทยรักษาบ้าน ขยายมาตรการช่วยเหลือลูกค้าลงทะเบียนถึง 30 มิถุนายน นี้! ธอส. เดินหน้าช่วยคนไทยรักษาบ้าน ขยายมาตรการช่วยเหลือลูกค้าลงทะเบียนถึง 30 มิถุนายน นี้!
  •  

Breaking News

'อลงกรณ์'ชี้'เอทานอล-ไบโอดีเซล'คือโอกาสในวิกฤตพลังงานของไทย

‘พีระพันธุ์’เร่งวางแผนบริหารจัดการราคาน้ำมัน-สำรองเชื้อเพลิง

(คลิป) เจาะ 3 ประเด็นร้อน! 'อนุทิน'ยอมหักไม่ยอมงอ-'ฮุนเซน'ลูกผู้ชายตัวปลอมโทษสื่อ-'บิ๊กเล็ก'เปิดทีมตอบโต้'เขมร'

(คลิป) เล่ห์ลับ 'ตระกูลฮุน' ที่คุณต้องรู้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved