นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายบิลเล ตาบีโอ รัฐมนตรีด้านการค้าต่างประเทศและการพัฒนา กระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ ที่กระทรวงพาณิชย์ว่า ไทยและฟินแลนด์ เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญและมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาเป็นเวลานานกว่า 70 ปี ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ของไทยพร้อมร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนของฟินแลนด์ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน
การหารือครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายย้ำว่าให้ความสำคัญอย่างมากกับการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) โดยไทยยืนยันว่าเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่รัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ ต้องการเร่งรัดการเจรจาให้สำเร็จโดยเร็ว เพราะจะเป็นประโยชน์กับทั้งไทยและอียู และประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศ รวมถึงฟินแลนด์ที่จะขยายโอกาสทางการค้า ทั้งสินค้าและบริการ ตลอดจนการลงทุนระหว่างกัน
“การเจรจา FTA ไทย-อียู จัดประชุมไปแล้วสองรอบ ล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2567 มีความคืบหน้าที่ดีตามลำดับ กำหนดนัดเจรจารอบต่อไปในช่วงปลายเดือนมิถุนายน2567 โดยฟินแลนด์ยินดีที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อสรุปผลการเจรจา FTA ได้สำเร็จภายใน 2 ปี ตามเป้าหมายที่กำหนด” นายภูมิธรรมกล่าว
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ได้แจ้งฟินแลนด์ว่ารัฐบาลไทยอยู่ระหว่างขับเคลื่อนนโยบายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและขนส่งไม่ว่าทางบก น้ำ ราง และอากาศ จึงเชิญชวนให้ฟินแลนด์รวมทั้งประเทศสมาชิกอียู เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในสาขาเทคโนโลยีขั้นสูงที่อียูมีความเชี่ยวชาญเพื่อประโยชน์ร่วมกันและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวและมีเสถียรภาพซึ่งนักลงทุนจากฟินแลนด์สามารถใช้ไทยเป็นประตูเชื่อมโยงสู่ภูมิภาคเอเชียด้วย
นอกจากนี้ยังได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับฟินแลนด์ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าตลอดจนสอดรับกับการค้ายุคใหม่ โดยคำนึงถึงการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาที่ยั่งยืน การรักษาสิ่งแวดล้อม มาตรฐานแรงงานที่ดี รวมถึงการเคารพสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และเสรีภาพของประชาชน
ในปี 2566 ฟินแลนด์ เป็นคู่ค้าอันดับ 14 ของไทยในยุโรป การค้ารวมมีมูลค่า 572.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปฟินแลนด์ 143.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นำเข้าจากฟินแลนด์ 429.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการค้ารวมไทย-อียูมูลค่า 41,582.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปอียู 21,838.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากอียู 19,743.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การลงทุนของไทยในอียูในช่วงมกราคม-กันยายน 2566 มีมูลค่า 3,173.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีการลงทุนสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ และการลงทุนของอียูในไทย ในช่วงเดียวกัน มีมูลค่า 2,745.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีการลงทุนสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์และยา ธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ธุรกิจบัญชี ธุรกิจขนส่ง และธุรกิจการเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี