นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่า ขณะนี้มีโรงสีที่นำใบประทวนเข้ามาขอสินเชื่อกับเอสเอ็มอีแบงก์แล้วกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งการให้สินเชื่อดังกล่าวผิดวัตถุประสงค์ของธนาคารนั้น ธนาคารขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ตรงตามข้อเท็จจริงของกระบวนการสินเชื่อแฟคตอริ่งโครงการรับจำนำข้าวของธนาคารฯ ซึ่งเป็นสินเชื่อโครงการช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานราชการ ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ตั้งแต่ฤดูกาลปี 2554 / 2555 ของรัฐบาลเป็นต้นไป โดยมุ่งแก้ปัญหาเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้
สินเชื่อแฟคตอริ่ง โครงการรับจำนำข้าวของธนาคารนั้น ไม่มีขั้นตอนการใช้ใบประทวนในการขอสินเชื่อกับธนาคาร แต่ผู้ประกอบการจะนำเอกสารการโอนสิทธิ์ในการรับเงินแทนของค่าเช่าคลังสินค้าและค่าตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) ที่อยู่ระหว่างรอรับเงินจากองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) หรือ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องกับธุรกิจ และธนาคารจะเป็นผู้เรียกเก็บหนี้จาก อ.ต.ก. และ อคส. ซึ่งเป็นหน่วยงานของภาครัฐแทน จึงไม่มีผลกระทบต่อความเสี่ยงของธนาคารแต่อย่างใด
กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวอีกว่า สินเชื่อโครงการนี้ ธนาคารมีวงเงินรองรับ 5,000 ล้านบาท และให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 80% ของหนี้การค้าที่นำมาโอน ซึ่งโครงการจะสิ้นสุดภายใน 31 ธันวาคม 2556 นี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่ธนาคารเริ่มโครงการครึ่งปีหลังของปีนี้ ได้อนุมัติวงเงินไปแล้ว 290 ล้านบาท และมีการเบิกจ่ายไปเพียง 64.65 ล้านบาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา เอสเอ็มอีแบงก์ เคยออกสินเชื่อแฟคตอริ่งโครงการรับจำนำข้าวเมื่อปี 2552 มาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งมีผู้มาใช้สินเชื่อวงเงิน 265 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาไม่มีผู้ประกอบการรายใดเป็นหนี้เสีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี