นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) ได้หารือถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประกาศอัตราชดเชย โดยมีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินกองทุนประเภทน้ำมันดีเซลให้สอดคล้องกับราคาตลาดโลกมากขึ้นทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศเกิน 30 บาท/ลิตรได้ ตั้งแต่เดือนเมษายน2567 เป็นต้นไป โดยการดำเนินการปรับอัตราเงินกองทุนในกลุ่มน้ำมันดีเซล กบน. จะพิจารณาถึงข้อมูลต่างๆ ตามความเหมาะสมของช่วงเวลาเพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและการบริหารจัดการของผู้ค้าน้ำมันมากจนเกินไป ทั้งนี้ ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 31 มีนาคม-1 เมษายน 2567 ยังไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เนื่องจากมาตรการขยายเวลาลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน ที่กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังร่วมกันบริหารจัดการราคาขายปลีก โดยใช้กลไกการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จะสิ้นสุดลงวันที่ 31 มีนาคม 2567 นี้ ประกอบกับปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง 104.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เฉลี่ยช่วงวันที่ 1-20 มีนาคม 2567)

“กบน.จะนำข้อมูลต่างๆ ที่มีผลต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมาพิจารณาร่วมกับแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2563-2567 ทุกครั้ง
ที่มีการปรับอัตราเงินกองทุนในประเภทน้ำมันดีเซล ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้จะเป็นการช่วยให้สภาพคล่องของกองทุนปรับตัวดีขึ้น เพื่อสามารถใช้กองทุนเป็นเครื่องมือรองรับกับสถานการณ์วิกฤตราคาน้ำมันที่ผันผวนอย่างต่อเนื่อง สกนช.จะดำเนินการประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อหารือในเรื่องอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่อไป” นายวิศักดิ์ กล่าว

สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 24 มีนาคม 2567 ติดลบ 98,220 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ
51,136 ล้านบาท ส่วนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ติดลบ 47,084 ล้านบาท

นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงพลังงานได้ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยเฉพาะค่าน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนของสินค้าและบริการ โดยมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 เป็นต้นมา ซึ่งบางช่วงราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงเคยสูงถึง 45 บาท/ลิตร ทำให้ปัจจุบันกองทุนซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเป็นหนี้ใกล้ 1 แสนบาทแล้ว

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้กองทุนมีภาระหนี้มากเกินไป และเป็นการรักษาสภาพคล่องและความเชื่อมั่นของกองทุน กระทรวงพลังงานจะนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนไปพร้อมกับการลดภาระหนี้ของกองทุน

“แต่หากไม่มีงบประมาณจากส่วนอื่นเข้ามาช่วย เช่น งบกลาง หรือการลดอัตราภาษีสรรพสามิต เบื้องต้นคาดว่ากองทุนจะต้องปรับลดอัตราการชดเชยราคาน้ำมันลง 1-2 บาท/ลิตรส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นแต่เพื่อมิให้เป็นภาระกับประชาชนมากเกินไป จึงจะมีการปรับลดการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลแบบขั้นบันได โดยปัจจุบันมีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 4.17 บาท/ลิตร คิดเป็นจำนวนเงินที่กองทุนฯ ต้องจ่ายประมาณ 8,700 ล้านบาทต่อเดือน จึงขอให้ประชาชนเข้าใจในสถานการณ์ ณ เวลานี้ด้วย” นายวีรพัฒน์ กล่าว