ค่ายซูซูกิ เปิดตัว NEW SUZUKI XL7 HYBRID รถในกลุ่มครอสโอเวอร์ รุ่นล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริด มาพร้อมกับดีไซน์ที่ล้ำสมัย  สมรรถนะที่โดดเด่น รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ ทั้งในเมือง และนอกเมือง

SUZUKI XL7 HYBRID รถเอ็มพีวี ครอสโอเวอร์ แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง  โดดเด่นด้วย กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ตกแต่งโครเมียม ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light ระบบไฟหน้า เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Guide Me ทำงานอัตโนมัติ เพื่อส่องทางเข้าบ้านและเมื่อเดินเข้าหาตัวรถ ไฟตัดหมอกหน้า ราวหลังคา กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ พร้อมไฟเลี้ยวในตัว มือจับประตูด้านนอกโครเมียม ด้านท้ายออกแบบ Chrom Back Gamish พร้อมป้ายสัญลักษณ์  Hybrid  วัสดุตกแต่งประตูท้ายโครเมียม มาพร้อมไฟส่องป้ายทะเบียน  ไฟท้าย  LED  แบบ light guides  ไฟเบรกแนวตั้ง  ซุ้มล้อสีดำ  และล้ออลูมิเนียมอัลลอยปัดเงา ขนาด 16 นิ้ว

ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย คอนโซลหน้าและแผงประตู  ตกแต่งวัสดุด้วยลายไม้  พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง D-Shape ปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และการสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย  ระบบครูซคอนโทรล  เบาะนั่งแบบผ้า ตกแต่งหนัง  เบาะแถวสอง ปรับพับได้ 60/40  เบาะแถวสาม ปรับพับได้ 50/50  ระบบปรับอากาศ ด้านหน้า และบริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหลัง มาพร้อมแผ่นกรองอากาศ รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ที่รองรับทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน อาทิ มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ  รวมถึงการอัปเดทหน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto  แท่นชารจ์โทรศัพท์แบบไร้สาย ช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI สตาร์ทและดับเครื่องยนต์ ด้วยระบบ Keyless Push Start มาพร้อมระบบ Keyless Entry ประตูเปิด-ปิดโดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท

ขุมพลังเครื่องยนต์ K15B ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า/6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 138 นิวตัน-เมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที  เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด  มาพร้อมขุมพลังไฮบริด จากการเสริมแรงของมอเตอร์ ISG (Integrated Starter Generator) ที่ใช้แรงดันไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ Li-on (10Ah 12V) ทำให้แรงบิดเพิ่มมากขึ้นอีก  50 นิวตันเมตร หรือ 36%  ทันทีที่กดคันเร่ง

คุณสมบัติเด่นของระบบ  SUZUKI HYBRID คือ แบตเตอรี่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเพียง 7 กก. จัดวางอยู่ในตำแหน่งสูง ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วม หรือ เส้นทางกึ่งออฟโรด  และหากแบตเตอรี่ Li-on ขัดข้อง หรือ เสียหาย รถยนต์คันนี้ ก็ยังสามารถขับเคลื่อนได้ตามปรกติ ซึ่งจะแตกต่างจาก Hybrid  ทั่วไป ที่รถยนต์จะไม่สามารถเคลื่อนที่ไปต่อได้ 

ด้านความปลอดภัย มีให้ครบครัน อาทิ ระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP และการปรับแต่ง module ในพวงมาลัย ที่เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้เข้าโค้งได้แม่นยำ รวมทั้งระบบช่วยการออกตัว ขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control)  จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ ที่กะระยะในขณะถอยหลัง รวมถึงระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

ช่วงการทดสอบทีมงานซูซูกิ  พาไปขับไกลถึง สวนผึ้ง จ.ราชบุรี  โดยทริปนี้จะเน้นสมรรถนะการขับขี่ ทั้งกำลังของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ISG ที่เพิ่มแรงบิดมาให้อีก 50 นิวตันเมตร พละกำลังเหลือเฟือและประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม แพลตฟอร์ม HEARTECT ที่เป็นเอกลักษณ์ของซูซูกิ รวมถึงระบบช่วงล่างปรับปรุงใหม่  พร้อมเหล็กกันโคลงด้านหน้าขนาดใหญ่  ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ตลอดจนการออกแบบความสูง ให้มีระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถ มีความสูงถึง 200 มิลลิเมตร  ทำให้การขับขี่ ทั้งออนโรด และกึ่งออฟโรด สามารถทำได้ดีทีเดียว สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ในทุกไลฟ์สไตล์  

ในส่วนของพื้นห้องโดยสารกว้างขวาง  ผู้เขียนสูง 173 ซม. ลองเปลี่ยนไปนั่งแถวสอง สะดวกสบายมาก ทั้งช่วงขาเหยียดได้สุดๆไปเลย รวมทั้งบริเวณเหนือศีรษะ ก็พื้นที่ยังเหลือ บานหน้าต่างขนาดใหญ่ มองเห็นทัศนียภาพต่างๆได้ชัดเจนเหมือนกับดูทีวีจอใหญ่  ขนาด 32 นิ้วกันเลยทีเดียว  ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหน แต่หมดกังวลได้เลย เพราะมีระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ รวมทั้งติดตั้งเพิ่มด้านหลัง สำหรับที่นั่งแถวสองและแถวสาม เพิ่มความเย็นสบายได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนมีช่องเครื่องดื่มมากถึง 8 ตำแหน่ง นอกจากนี้ เบาะนั่งแถวที่สอง ปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร เพื่อการเข้า-ออกแถวที่สาม ได้สะดวกและง่ายดาย เบาะนั่งแถวที่สาม ปรับพับแบบ 50:50

นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้วใหญ่ ที่สุดในเซกเม้นท์เดียวกัน มาพร้อมระบบปรับแต่งเสียง และประมวลผลในแบบดิจิทัล (Digital Sound Processor) รวมถึงฟังก์ชั่นเชื่อมต่อ Bluetooth ,Apple CarPlay, Android Auto ตลอดจนมีช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า รวมทั้งมีช่องจ่ายไฟสำรอง 12V  มากถึง 3 ตำแหน่ง

โดยสรุปแล้ว SUZUKI XL7 HYBRID เป็นรถเอ็มพีวี ครอสโอเวอร์ แบบ 3 แถว ที่สามารถใช้งานได้จริงทุกที่นั่ง มาพร้อมกับสมรรถนะที่โดดเด่นของระบบไฮบริด ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน รวมถึงติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 799,000-814,000 บาท  ช่วงนี้เปิดตัว  พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ  ที่งานมอเตอร์โชว์  2024  โดยงานจะมีไปจนถึงวันที่ 7 เม.ย.นี้!!

                                                                                                    นิติ โมราวรรณ