บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ หรือ BAFS เราคาดว่ากำไรสุทธิ BAFS ใน 1Q67F จะอยู่ที่ 49 ล้านบาท (-6% YoY, ดีขึ้น QoQ จากขาดทุนสุทธิ 198 ล้านบาทใน 4Q66) กำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะไม่มีเงินปันผล 32 ล้านบาทจากโรงไฟฟ้า solar
สองแห่งในญี่ปุ่นเหมือนใน 1Q66 หลังจากบริษัทเลื่อนรับเงินปันผลเป็นไตรมาสที่สี่ของทุกปี ส่วนผลประกอบการที่ฟื้นตัวขึ้นมาก QoQ เป็นเพราะ i) ไม่มีรายการพิเศษขาดทุนสี่รายการรวม 159 ล้านบาทเหมือนกับใน 4Q66 และ ii) ปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้นจากทั้งธุรกิจการเติมน้ำมันเครื่องบินและการขนส่งเชื้อเพลิง เราคาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น 9% QoQ เป็น 1,250 ล้านลิตร เพราะคาดว่าจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) และดอนเมือง (DMK)จะเพิ่มขึ้นเนื่องจาก i) ไตรมาสที่หนึ่งเป็นช่วง high season และ ii) เริ่มใช้มาตรการยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม นอกจากนี้ เราคาดว่าปริมาณการขนส่งเชื้อเพลิงของ Fuel Pipeline Transportation (FPT) ซึ่ง BASF ถือหุ้นอยู่ 75% จะเพิ่มขึ้น 14% QoQ เป็น 290 ล้านลิตร เนื่องจากปริมาณน้ำมันส่งจากโรงกลั่นพระโขนงของ Bangchak Corporation (BCP) เพิ่มขึ้น หลังจากที่ BCPซื้อ Bangchak Sriracha (BSRC) เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของทั้งสองธุรกิจของ BAFS จะเพิ่มขึ้น QoQ จาก 31.3% เป็น 37.0%
จากข้อมูลที่ได้จากการประชุม Oppday งวด 4Q66 ของ BAFS บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและเตรียมโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันเชื่อมต่อช่วงสระบุรี-อ่างทอง ซึ่งจะเชื่อมต่อท่อส่งน้ำมันภาคเหนือของ FPT กับท่อส่งน้ำมันของ Thappline โครงการนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.2 พันล้านบาท ผู้บริหารคาดว่าจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับโครงการท่อส่งน้ำมันส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างสระบุรี-อ่างทองใน 2Q67F น่าจะเริ่มงานก่อสร้างใน 3Q67F คาดว่าท่อส่งน้ำมันเส้นนี้จะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ใน 1H69F เราเชื่อว่าเมื่อเปิดดำเนินโครงการท่อส่งน้ำมันเชื่อมต่อเส้นนี้แล้ว จะทำให้ท่อส่งน้ำมันภาคเหนือของ FPT พลิกจากที่มีผลขาดทุนเป็นมีกำไรจากการดำเนินงานได้
เรายังคงคำแนะนำซื้อ BAFS และคงราคาเป้าหมาย SoTP ปี 2567F ที่ 30.50 บาท เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจาก i) ผลประกอบการที่คาดว่าจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ ใน 1Q67F และ ii) แนวโน้มจำนวนนักเดินทางต่างชาติที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากจีน หลังจากที่ไทยและจีนเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567
ปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของอุปสงค์น้ำมันเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง, การขนส่งน้ำมันหลายประเภทผ่านท่อส่งน้ำมันของบริษัท และสัดส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนที่สูงถึง 2.0x ใน 4Q66
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี