วงเสวนากฎหมายจุฬาฯ ถกเจ้าหน้าที่ของรัฐกับการถูกฟ้องคดีอาญา ยกกรณี"ทรู"ฟ้องบอร์ด กสทช."พิรงรอง"
วานนี้ (1 พฤษภาคม 2567) ณ ห้องประชุมสุรเกียรติ์ เสถียรไทย คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดเสวนา ฬ.จุฬาฯ นิติมิติ ในประเด็น 'เจ้าหน้าที่ของรัฐกับการถูกฟ้องคดีอาญา' ซึ่งที่ผ่านมานั้น ผศ.ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า ทางคณะได้มีการจัดเวทีเสวนาประเด็นที่น่าสนใจอยู่เป็นระยะ เนื่องจากกฎหมายมีผลกระทบต่อสังคมวงกว้างและเห็นว่ากฎหมายบางครั้งถูกใช้เป็นเครื่องมือในการดูแลปกป้องสิทธิเสรีภาพต่าง ๆ แต่บางครั้งอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือที่ทำให้คนเกิดความกลัว หวังว่าเวทีเสวนาในวันนี้จะมีประโยชน์และผลกระทบต่อสังคมในเชิงบวก
นางสาวสฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า การใช้สิทธิเสรีภาพแสดงออกในการวิพากษ์วิจารณ์ เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่เมื่อมีการใช้กฎหมายกลั่นแกล้งก็จะเป็นคดีหมิ่นประมาท ซึ่งในประเทศไทยคดีหมิ่นประมาทเป็นคดีอาญา ซึ่งโทษทางอาญาจะรุนแรงกว่าโทษทางแพ่ง ในตัวสารบบกฎหมายหมิ่นประมาทอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทหรือบุคคลต่าง ๆ ใช้กฎหมายมากลั่นแกล้งได้ ทางด้านของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ประชาชนคาดหวังให้ทำหน้าที่อย่างสุจริต แต่ในปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่รัฐถูกกลั่นแกล้งโดยการใช้กฎหมายมีจำนวนไม่น้อย ในกรณีที่เป็นข่าวจะเห็นว่าบางทีก็ไม่สามารถคาดหวังความยุติธรรมจากหน่วยงานต้นสังกัดได้ เนื่องจากหน่วยงานต้นสังกัดอาจมีพรรคพวกของตนเอง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีของตำรวจที่เป็นข่าวในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงข้อเสนอในคดีฟ้องปิดปากคือ การทำสัญญาประนีประนอมในคดีฟ้องปิดปากที่มีการทำสัญญาต่าง ๆ อาจเป็นทางเลือกใหม่นอกจากการต่อสู้จนถึงที่สิ้นสุด หรือการยอมรับผิด และควรเปิดให้มีการถ่ายทอดสดในคดีที่มีการฟ้องปิดปากที่มีประโยชน์ต่อสาธารณะด้วย
ทางด้านนายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวถึง ประเด็นพิพาทเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ ภายใน กสทช. โดยยกกรณี สภาองค์ผู้บริโภคเข้าไปให้กำลังใจ ศาสตราจารย์กิตติคุณ พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ที่ถูกฟ้องจากบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งเป็นการฟ้องในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยคณะกรรมการ กสทช. มีเพียงไม่กี่ท่าน ถ้าหากตัดใครไปสักคนเปรียบเสมือนการตัดตัวผู้เล่นออกไป โดยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหลังเกิดการฟ้องร้องแล้วนั้น หากจะมีการพิจารณาเรื่องใดที่เกี่ยวกับบริษัทเอกชนรายนี้ ก็จะมีหนังสือส่งแจ้งไปยังสำนักงานทันที ว่ากรรมการท่านดังกล่าว ไม่สามารถพิจารณาใช้อำนาจได้ เนื่องจากเป็นคู่ขัดแย้งกัน นอกจากนี้ ก็ยังมีการฟ้องกันเอง ระหว่างรองเลขาฯ และ กรรมการ กสทช. 4 ท่าน ท้ายสุด มีเอกสารแจ้งว่าไม่สามารถมีอำนาจพิจารณาการแต่งตั้งเลขาฯ คนใหม่ได้ เนื่องจากพาดเกี่ยวเป็นคู่กรณีกัน
ทางด้าน ศ.ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ยกกรณีศาสตราจารย์กิตติคุณพิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ที่ถูกฟ้องจากบริษัทเอกชน ซึ่งการฟ้องดังกล่าว ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดผลแพ้ชนะแต่อย่างใด แต่หวังผลให้เกิดขึ้นใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่
1.กสทช.มีจำนวน 7 คน แบ่งเป็น 2 ฝ่าย 3 : 4 เคยเกิดเหตุการณ์ผลประชุมเท่ากัน และเกิดการออกเสียงซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ศาลรัฐมธรรมนูญมีกฎหมายระบุไว้ว่าไม่สามารถทำได้ ประธานไม่สามารถออกเสียงซ้ำได้ จะต้องมีการเกลี่ยกล่อมกันจนเกิดฉันทามติ
2.เคยมีประเด็นควบรวม ทรู ดีแทค (ล่มมา 6 ครั้ง) ยังอยู่ที่ศาลแต่ดำเนินการไปแล้ว
3.หากกรณีพิจารณาเรื่อง ทรู กสทช. 7 คน ทรู (ซึ่งมีส่วนได้เสีย) จะคัดค้านว่าอาจารย์พิรงรองเป็นคู่กรณีต้องถอนตัวเพื่อให้กรรมการเหลือ 6 คน เมื่อคะแนนเสียงเท่ากัน ก็ให้ประธานออกเสียงเพิ่ม 1 เสียง
4.กรณีนี้จึงมิใช่ต้องการให้คดีแพ้หรือชนะ แต่ต้องการฉวยโอกาสเอาเวลาจากความล่าช้าของการพิจารณาคดีมาเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายตนโดยใช้ศาลเป็นเครื่องมือ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี