นายสุรพล ชามาตย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้การต้อนรับ นายเฟิ้ง อี้ ประธาน Guangdong Shengjie Industrial Group Co., Ltd. ซึ่งนำคณะสมาคมผู้ประกอบการโรงงาน เขตกว่างโจว พานหยู สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการลงทุนในประเทศไทย
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้แนะนำภารกิจและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมโดยเน้นย้ำนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ใน 3 จังหวัด คือ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และแนะนำให้ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
“ผู้แทนจากสมาคมฯ แสดงความสนใจลงทุนในไทย โดยมีสมาชิกในสมาคมประกอบธุรกิจหลากหลาย อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ดับเพลิง มองว่าไทยมีศักยภาพสูงในการพัฒนาอุตสาหกรรม ประกอบกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับจีน จึงเลือกไทยเป็นจุดหมายการลงทุนอันดับแรก ซึ่งการหารือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนจีนที่มีต่อประเทศไทยกระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน”นายสุรพลกล่าว
ด้านนางศิริเพ็ญ เกียรติเฟื่องฟู รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมกล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทยมีการปรับเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจที่สร้างการเพิ่มรายได้มากขึ้น ด้วยอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าด้วยนวัตกรรมและการบริการที่ใช้ทักษะขั้นสูง ขณะที่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ มีการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ชีวภาพ แปรรูปอาหาร เครื่องมือแพทย์ สู่การยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0
นอกจากนี้ มีการเพิ่มประสิทธิภาพของปัจจัยการผลิตสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าในด้านกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ที่ต้องขับเคลื่อนด้วยการวิจัยและเทคโนโลยีส่วนในการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านสิ่งแวดล้อมทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในการลดการปล่อยคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจกซึ่งมีแผนปฏิบัติการในปี พ.ศ.2564-2573 สาขากระบวนการผลิตและการใช้ผลิตภัณฑ์รวมถึงน้ำเสียด้วย
อนึ่งก่อนหน้านี้กรมพัฒนาาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วง 4 เดือนแรกปี 2567 (มกราคม-เมษายน) ได้อนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 253 รายโดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวจำนวน 69 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) จำนวน 184 ราย เกิดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 54,958 ล้านบาท ส่งผลดีต่อการจ้างงานคนไทยถึง 1,019 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี