พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฏหมาย เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 กสทช.ได้ทำการระงับสัญญาณการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามที่ กสทช.ได้ออกประกาศกำหนดให้มีการยืนยันตัวตนผู้ใช้บริการ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มผู้ลงทะเบียนซิมการ์ดตั้งแต่ 6-100 เลขหมาย และ 2.กลุ่มผู้ลงทะเบียนซิมการ์ด 101 เลขหมายขึ้นไป โดยในกลุ่มนี้ ครบกำหนดการยืนยันตัวตน  เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2567 ขณะนี้มีผู้ใช้บริการได้ทำการยืนยันตัวตนแล้วจำนวนทั้งสิ้น 3,914,057 เลขหมาย  จากจำนวนที่เข้าข่ายต้องยืนยันตัวตน 5,078,283 เลขหมาย ซึ่งเลขหมายที่ยังไม่ยืนยันตัวตนได้ถูกระงับบริการแล้ว

“สรุปเลขหมายวันที่ 13 ก.ค.จะปิดระบบในช่วงเวลา 0.00 น.โดยโอเปอเรเตอร์จะส่งผลให้สำนักงาน กสทช.ได้ในวันที่ 15ก.ค. 2567 ซึ่งหลังจากนี้เลขหมายที่ไม่ได้ลงทะเบียนจะถูกระงับการให้บริการแล้ว ไม่สามารถใช้ได้ โทรออกไม่ได้ ส่งข้อความสั้น (SMS) ไม่ได้ เรายังไม่ได้เพิกถอน เพราะเรายังต้องใช้เวลาในการตามอย่างเช่นกลุ่มแรก ที่ครบไปเมื่อ 14 ก.พ.67 ปรากฏว่าระงับเมื่อวันที่  30 พ.ค.67 จำนวน 2.4 ล้านเลขหมาย แต่เราไปดูแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเลขหมายของการให้บริการ IOT เราทำหนังสือตาม ไปที่กรมการขนส่งทางบก อุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งหมดเลยเพื่อให้ไปกระจายข่าว รวมถึงธนาคารพาณิชย์ 11 แห่ง ทำให้มายืนยันตัวตนเพิ่มอีก 1 ล้านกว่าเลขหมาย การระงับก็จะเป็นการกระตุ้น” 

อย่างไรก็ตามในครั้งนี้มีผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) หลายราย ทำหนังสือขอขยายระยะเวลาออกไปอีก แต่ กสทช.ยังไม่ได้ทำหนังสือตอบรับ เนื่องจากจะต้องรอสรุปและติดตามไปอีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้เลขหมายที่อยู่ในระบบมีจำนวน 120 ล้านเลขหมาย แต่เลขหมายที่มีการใช้งาน (Active) อยู่จำนวน 87 ล้านเลขหมาย ซึ่งคาดว่าจำนวนเลขหมายจะลดลงต่อเนื่อง

โดยเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ได้จัดสรรไปแล้วในปี 2567 จำนวน 1,503,160 เลขหมาย และเลขหมายจัดสรรสะสม (รวมเลขหมายที่ย้ายค่ายจากผู้ให้บริการที่สิ้นสุดสัมปทานแล้ว) จำนวน 161,217,784 เลขหมาย โดยมีเลขหมายที่มีผู้ใช้งาน (Active) จำนวน 118,920,198 เลขหมาย แบ่งเป็นระบบเติมเงิน (Prepaid) 72.9% ระบบรายเดือน (Postpaid) 27.1%