‘โออาร์’เปิดแผนขยายธุรกิจ เดินหน้ารุกตลาดน้ำมัน-LPG-JET A1 ต่างประเทศ

31 กรกฎาคม 2567 นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) กล่าวว่า การขยายธุรกิจต่างประเทศยังคงอยู่ในฐานเดิมที่มีอยู่แล้ว อาทิ ลาว กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยจะให้ความสำคัญกัมพูชาเป็นหลัก เนื่องจากสอดคล้องกับธุรกิจกลุ่มปตท. ซึ่งใน 1-2 ปีต่อจากนี้กำลังการกลั่นของประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นไทยออยล์ 260,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 400,000 บาร์เรล/วัน ดังนั้นโออาร์จะรับหน้าที่จำหน่ายต้องจัดหาตลาดรองรับ โดยตลาดที่สำคัญ คือกัมพูชา

“กัมพูชาเป็นประเทศนำเข้าน้ำมัน เนื่องจากไม่มีโรงกลั่นน้ำมัน โดยปัจจุบันโออาร์ในกัมพูชามีธุรกิจปั๊มน้ำมัน 170 แห่ง คาเฟ่อเมซอน 200 กว่าแห่ง ตลาดกัมพูชามีอัตราการขยายตัวสูง ดังนั้นน้ำมันจะเป็นตลาดหนึ่งที่โออาร์จะโฟกัส  โดยโออาร์จะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในการลงทุนสร้างคลังน้ำมันที่กัมพูชาเพื่อให้สอดคล้องการแผนการทำตลาดรับกำลังการกลั่นไทยออยล์ที่จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้กัมพูชาจะเปิดตัวสนามบินใหม่ประมาณต้นปี 2568 ทางโออาร์ก็จะเพิ่มน้ำมันเครื่องบิน JET A1 เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย” นายดิษทัต กล่าว

นายดิษฑัต กล่าวว่า ในขณะที่ประเทศอื่นๆก็ยังคงให้ความสำคัญซึ่งล่าสุดจัดตั้งบริษัท ORVN หรือ โออาร์เวียดนาม จำกัดขึ้น โดยเวียดนามนับว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการการขยายตัวทางเศรษฐกิจดีมาก โดยเบื้องต้นก่อนหน้านี้โออาร์จะเน้นเข้าไปสู่ธุรกิจกาแฟโดยเข้าไปลงทุนคาเฟ่อเมซอนร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG)ก่อน นอกจากนี้โออาร์ยังมองถึงโอกาสขยายการลงทุนด้านอื่นๆ เช่น การลงทุน LPG เพราะเวียดนามยังเป็นตลาดที่ต้องนำเข้า LPG  เป็นต้น

“ส่วนขยายการลงทุนไปยังเมียนมายังคงรอความชัดเจนในหลายๆด้าน แต่ปัจจุบันด้วยสถานการณ์การเมืองเมียนมาที่เกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องทบทวนไปก่อน แต่เมื่อไรที่เมียนมามีความพร้อมก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสของโออาร์ที่จะเข้าไปลงทุน ขณะที่ตลาดจีนอยู่ระหว่างการทบทวนแผนทั้งหมด เพราะที่จีนมีการแข่งขันสูง โดยปีนี้โออาร์จะหาพาร์ทเนอร์ใหม่ๆเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในดำเนินธุรกิจต่อไป  ในส่วนของรายได้ปัจจุบันในตลาดต่างประเทศ พบว่า กัมพูชาทำรายได้ให้มากที่สุด รองลงมา คือ ฟิลิปปินส์ และสปป.ลาว ตามลำดับ” นายดิษฑัต กล่าว

นายดิษฑัต กล่าวว่า ในการขยายธุรกิจคาเฟ่อเมซอนสู่ตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ทางโออาร์จะมีการลงทุน Amazon Park ในจ.ลำปาง บนพื้นที่ 600 ไร่ โดยโออาร์จะพาคณะกรรรมการบริหารบริษัท( บอร์ด) ไปลงพื้นที่ในเดือนกันยายน 2567 จากนั้นจะขออนุมัติการลงทุนในเดือนตุลาคม 2567 หากก่อสร้างเฟสแรกปีนี้จะเริ่ม 350 ไร่ก่อน จากนั้นค่อยทำเฟสที่เหลืออีก 250 ไร่ คาดว่าภายใน 2 ปี จะสามารถเปิดให้บริการได้

ทั้งนี้ ใน Amazon Park จะมีการทำศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม  R&D  พัฒนาต้นกล้ากาแฟเองซึ่งปัจจุบันโออาร์ซื้อจากแหล่งอื่นๆ เพื่อไปสู่แบรนด์ระดับโลกต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดประชุม World Coffee ให้องค์ความรู้กับผู้ประกอบการ นักศึกษา เป็นต้น โดยทั้งหมดเป็นการสร้างความภูมิใจในแบรนด์และยังสร้างรายได้ในกับชุมชนท่องเที่ยวให้กับจ.ลำปาง

“ตลาดต่างประเทศเป็นตลาดที่ท้าทาย เพราะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง และก็มีโอกาสในการขยายธุรกิจที่สูงเช่นกัน อย่างไรก็ตามโออาร์ไม่ได้หยุดการขยายตัวในไทย ยังคงขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากตลาดในไทยปัจจุบันการขยายตัวไม่มากจึงต้องเข้าไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มเติม นอกจากนี้โออาร์จะดำเนินธุรกิจเดิมๆต่อไปไม่ได้เช่นกันจึงต้องไปขยายยังธุรกิจใหม่ๆเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เช่น Food And Beverage, Health and Beauty เป็นต้น ส่วนการลงทุนในธุรกิจโรงแรมยังอยู่ในแผน โดยอยู่ระหว่างการศึกษา และหาพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพราะโออาร์ไม่สามารถดำเนินธุรกิจเองได้ทุกอย่าง ดังนั้นต้องมีพันธมิตรที่ดีที่มีศักยภาพมาร่วมด้วย” นายดิษฑัตกล่าว