นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)เปิดเผยถึง ความคืบหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ “แลนด์บริดจ์”ว่า โครงการแลนด์บริดจ์เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคม ที่จะอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC เชื่อมโยง 2 ท่าเรือ คือ 1.ท่าเรือน้ำลึกแหลมอ่าวอ่าง อ.ราชกรูด จ.ระนอง 2.ท่าเรือน้ำลึก แหลมริ่ว อ.หลังสวน จ.ชุมพร

อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐบาลโรดโชว์และเดินหน้าผลักดัน ทำให้ขณะนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนในหลายประเทศ ทั้ง จีน, ญี่ปุ่น, สหรัฐ รวมไปถึง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ทางบริษัทเดินเรือ Dubai Port World เข้ามาดูพื้นที่จริง และให้ความสนใจอย่างมาก

ทั้งนี้ สนข.อยู่ระหว่างเร่งผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (พ.ร.บ. SEC) ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ใน 4 จังหวัด คือ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช โดยได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) พิจารณาให้ สนข.เป็นผู้จัดทำร่าง พ.ร.บ. SEC

อย่างไรก็ตาม ซึ่งหากรับฟังความคิดเห็น (ประชาพิจารณ์) แล้วเสร็จจะนำเสนอร่างฯ พ.ร.บ. SEC ไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน กันยายน นี้ ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมั่นใจว่าพ.ร.บ. SEC จะเสร็จภายในปี 2568 และหากเป็นไปตามแผนสามารถเปิดประมูลและก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ ปลายปี 2568 หรือต้นปี 2569 และเปิดให้บริการปี 2573

“แม้กรอบเวลาการพัฒนา แลนด์บริดจ์ไทย น่าจะล่าช้ากว่า การพัฒนาท่าเรือในมาเลเซีย สิงคโปร์ และ กัมพูชา แต่การพัฒนาและพื้นที่ของแต่ละท่าเรือมีความแตกต่างกัน กลุ่มเป้าหมายก็มีความแตกต่างกัน พร้อมกับมองว่าการพัฒนาท่าเรือ เป็นสิ่งที่ประเทศในอาเซียนมองเห็นโอกาส และศักยภาพการให้บริการของท่าเรือที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ต้องขยับขยาย เพื่อดึงการลงทุนให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศของเขาเองซึ่งประเทศไทยก็เช่นกัน เมื่อเห็นโอกาสและสามารถลงทุนขยายขีดความสามารถการขนส่งทางน้ำ เพื่อรองรับความต้องการการขนส่งทางเรือจากทั่วโลก ซึ่งเอกชนที่มีสายการเดินเรือและกองเรือ แต่ยังไม่มีท่าเรือของตนเอง การสร้างท่าเรือใหม่ จึงเป็นโอกาสที่จะดึงการลงทุนเข้ามาในประเทศได้” ผอ.สนข. กล่าว

อย่างไรก็ตาม เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC จะใกล้เคียงกับการพัฒนา EECที่ทำอยู่ ทั้งสิทธิประโยชน์และอัตราภาษีที่จะให้กับนักลงทุน เพื่อดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 New S-curve ได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ให้มาลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว

นอกจากนี้ โครงการแลนด์บริดจ์ ที่อยู่ในพื้นที่ SEC แล้วนั้น ยังมี ทางรถไฟ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ที่อยู่ระหว่างการออกแบบ รวมถึงการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วเสร็จปี 2568 สอดคล้องกับการออกแบบท่าเรือ และการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ที่จะแล้วเสร็จภายในปี 2567 
ทั้งนี้รายงานของ สนข. โครงการแลนด์บริดจ์จะช่วยทำให้ GDP ของประเทศไทยมีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประมาณการโดย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ 4.0% ต่อปี เป็น 5.5% ต่อปีพร้อมทั้งจะทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ จำนวน 280,000 ตำแหน่ง แบ่งเป็น จ.ระนอง จำนวน 130,000 ตำแหน่ง และ จ.ชุมพร 150,000 ตำแหน่ง