ปอร์เช่ ประเทศไทย เผยโฉม “ปอร์เช่ มาคันน์” พลังงานไฟฟ้า รุ่นใหม่ล่าสุด ครั้งแรกในไทย มาพร้อมสมรรถนะที่โดดเด่น และดีไซน์เหนือกาลเวลาเปิดรับจอง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

มาคันน์ 4 (Macan 4) และ มาคันน์ เทอร์โบ (Macan Turbo) เปิดตัวครั้งแรกของโลก ที่ประเทศสิงคโปร์ เดือนมกราคม 2024 ด้วยสมรรถนะเทียบเท่ารถสปอร์ตการชาร์จเร็วที่มีประสิทธิภาพสูง 270 กิโลวัตต์และระยะการเดินทางสูงสุด 613 กม. มาตรฐาน WLTP

ปอร์เช่ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ PSM (Permanent Magnet Synchronous) รุ่นใหม่ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อทำงานร่วมกับระบบ Launch Control โดยมาคันน์ 4 กำลังสูงสุด 300 กิโลวัตต์ (408 แรงม้า) ด้วยพลังโอเวอร์บูส และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. ขณะที่มาคันน์ เทอร์โบ กำลังสูงสุด 470 กิโลวัตต์ (639 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 1,130 นิวตันเมตร 0-100 กม./ชม. เพียง 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 260 กม./ชม.

มาคันน์ ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ติดตั้งอยู่ที่ตัวถังด้านล่าง ความจุพลังงาน 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถใช้งานได้สูงสุด 95 กิโลวัตต์ชั่วโมง แบตเตอรี่แรงสูง
(HV) เป็นส่วนประกอบหลัก ของแพลตฟอร์มไฟฟ้าระดับพรีเมียม (PPE) พัฒนาขึ้นใหม่ รองรับกำลังไฟฟ้า 800 โวลต์ ซึ่งนำมาใช้เป็นครั้งแรกในมาคันน์ใหม่

โดยสามารถชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงหรือ DC ได้สูงสุด 270 กิโลวัตต์ ชาร์จแบตเตอรี่จาก 10% ถึง 80% ภายในเวลา 21 นาที สำหรับสถานีชาร์จ 400 โวลต์ รถสามารถแบ่งแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ออกเป็นสองส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จ ทำให้ชาร์จไฟได้สูงสุด 135 กิโลวัตต์ นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ ผ่าน Wallboxที่บ้าน และชาร์จไฟคืนสู่แบตเตอรี่ขณะขับขี่ได้สูงสุด 240 กิโลวัตต์

มาคันน์ 4 และมาคันน์ เทอร์โบ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่สปอร์ต ทรงพลัง ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของปอร์เช่ ไม่ว่าจะเป็น ฝากระโปรงหน้าที่ลาดเอียง และโป่งล้อ
ไฟหน้าแบ่งเป็น 2 ส่วน ชุดไฟเดย์ไลท์ 4 จุดฝังอยู่ในปีก โมดูลไฟหน้าหลัก พร้อมเทคโนโลยี LED เมทริกซ์ เป็นอุปกรณ์เสริม อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำลงเล็กน้อย เส้นสายหลังคาแบบ Porsche Flyline ผสานเข้ากับกระจกหลัง ประตูไร้ขอบ และเส้นสายด้านข้าง ด้านท้ายมีโลโก้ PORSCHEตรงกลางแถบไฟท้าย 3 มิติ

ปอร์เช่ เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ ด้วยระบบ Porsche Active Aerodynamics (PAA) ที่ควบคุมการทำงานของชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ ประกอบด้วย สปอยเลอร์หลังและช่องดักอากาศด้านหน้าแบบปรับได้และแผ่นปิดใต้ท้องรถ ช่องดักอากาศใต้ไฟหน้าและด้านหน้ารถ ด้านท้ายมีขอบด้านข้างลดแรงต้านอากาศ และดิฟฟิวเซอร์แบบช่องลม โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.25 ทำให้เป็นรถ SUV ที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำที่สุด

นอกจากนี้ ยังนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในบางส่วนของห้องโดยสาร อาทิ จอแสดงผล ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด โดยมีหน้าจอถึง 3 หน้าจอ ได้แก่ หน้าปัดแบบโค้ง ขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอกลางขนาด 10.9 นิ้ว และเป็นครั้งแรกที่ผู้โดยสารสามารถดูข้อมูล ปรับการตั้งค่าต่างๆ ผ่านหน้าจอ ขนาด 10.9 นิ้ว ของตนเองได้

อีกไฮไลท์ที่น่าสนใจ คือ การแสดงผลภาพบนกระจกหน้ารถ (Head-up Display) ที่ใช้เทคโนโลยี AugmentedReality (AR) เป็นครั้งแรก ซึ่งจะแสดงข้อมูลเสมือนจริง เช่น ลูกศรนำทาง ซ้อนทับกับภาพจริง โดยภาพปรากฏขึ้นที่ระยะห่าง 10 เมตร จากผู้ขับขี่ และมีขนาดที่สอดคล้องกับหน้าจอ ขนาด 87 นิ้ว รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์รุ่นใหม่ ระบบปฏิบัติการ Android Automotive OS โดย PorscheCommunication Management (PCM) เช่น ระบบสั่งการด้วยเสียง “HeyPorsche” สามารถแนะนำเส้นทาง และสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น

มาคันน์ ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบเรียลไทม์ Porsche Traction Management(ePTM) กระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลัง ได้เร็วกว่าแบบเดิม 5 เท่าตอบสนองต่อการลื่นไถลภายใน 10มิลลิวินาที รวมถึง ระบบ Porsche TorqueVectoring Plus (PTV Plus) ระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังเป็นอุปกรณ์เสริม โดยมีมุมบังคับเลี้ยวสูงสุด 5 องศา สามารถกลับรถได้ด้วยรัศมีวงเลี้ยวเพียง 11.1 เมตร สำหรับราคาจำหน่าย มาคันน์ 4 เริ่มต้นที่5.39 ล้านบาท และราคา 7.79 ล้านบาท สำหรับมาคันน์ เทอร์โบ

พร้อมกันนี้ ปอร์เช่ ประเทศไทย ได้จัดงาน “The new all-electric Macan Sneak Preview at The Emsphere” ระหว่างวันที่ 9 ส.ค.-30 ก.ย. สนใจ
เข้าร่วมงานได้ที่ AAS House ชั้น 2 โซน EM Innovation ศูนย์การค้า The Emsphere