นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล หรือ HENG เปิดเผยว่า จากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มอำนาจการซื้อสินค้าให้แก่ประชาชนผ่านการอัดฉีดเงินดิจิทัลจำนวน 10,000 บาท ที่ได้เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา และเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน จะช่วยส่งเสริมความสามารถการชำระหนี้ที่ดีขึ้นแก่ลูกหนี้ของ HENG ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs จากการมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจช่วยปลุกกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้น บริษัทฯ ได้เพิ่มระดับความเข้มข้นในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อใหม่ให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมคุณภาพหนี้ โดยโฟกัสกลุ่มลูกค้าภาคเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีประวัติการผ่อนชำระหนี้ที่ดีผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ

ขณะเดียวกันจะมุ่งบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่ายการขายและการตลาด (SG&A) ให้มีประสิทธิภาพ โดยปรับลดขนาดสาขาเพื่อลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพการ
จัดเก็บหนี้ เชื่อมั่นว่าด้วยแนวทางการดำเนินงานดังกล่าว จะทำให้ HENG สามารถเอาชนะความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตไม่เต็มศักยภาพได้

ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) มีแรงกดดันจากปัจจัยลบต่อการดำเนินธุรกิจทำให้ต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน มุ่งโฟกัสคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ให้มีคุณภาพที่ดี ตลอดจนให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มลูกหนี้ที่มีความเปราะบางจากผลกระทบเศรษฐกิจและมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ไปแล้วรวมกันกว่า 30,000 ราย รวมถึงมีผลขาดทุนด้านเครดิตจากลูกหนี้บางส่วนในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อทำให้มีรายได้ 743 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 6 ล้านบาท

“เราประเมินว่าหากเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังฟื้นตัวจากการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ จะทำให้ลูกหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ สามารถฟื้นตัวและกลับสู่กลุ่มลูกหนี้
ที่มีคุณภาพอีกครั้ง รวมถึงบริษัทฯ ได้ใช้แนวทางการบริหารจัดการที่มีความยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ภาพรวมทั้งปีสามารถทำผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจได้” นายวิชัย กล่าว