นายวรยุทธ กิตติอุดม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีเนกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) Zenex Property (RK) และอุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองว่า ตลาดโดยรวมในระยะสั้นจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร เนื่องจากมีกลไกกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ของประเทศหลายอย่างที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว และอยู่ในขั้นตอนที่จะนำมาใช้ในอนาคต และเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่ยังคงให้ความสำคัญกับภาคอสังหาฯ เพราะมีส่วนช่วยให้ GDP ของประเทศเติบโตขึ้น
“โจทย์หลักในขณะนี้คือความเร็วในการผลักดันให้นโยบายและโครงการต่างๆ ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเกิดเป็นรูปธรรม รวมถึงการพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในวาระต่อไปให้เดินหน้าต่อไปโดยไม่สะดุดเนื่องจากภาวะสุญญากาศทางการเมือง ดังนั้น การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำไปสู่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และสามารถจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ทั้งหมดจะต้องเกิดขึ้นให้ได้เร็วที่สุด”
นายวรยุทธกล่าวอีกว่า การสร้างโอกาสให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยของตัวเองเป็นภารกิจของรัฐบาลไม่ว่าจะมาจากพรรคการเมืองใดก็ตาม ดังนั้นทุกปีจึงมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ทั้งในฝั่งดีมานด์และซัพพลายเชนของอุตสาหกรรม อย่างที่เห็นกันในปีนี้ รัฐบาลก็มีมาตรการที่ช่วยให้ประชาชนได้ซื้อหรือเช่าบ้านได้มากขึ้น อาทิ การลดค่าโอนและค่าจดจำนองบ้านและอาคารชุดที่ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท การลดหย่อนภาษีฯ สำหรับผู้ปลูกสร้างบ้านเอง หรือมาตรการด้านดอกเบี้ย ผ่านทางสถาบันการเงินของรัฐ เช่น สินเชื่อบ้าน Happy Home และ Happy Life ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และสินเชื่อบ้านธนาคารออมสิน หรือโปรโมชั่น “ตามใจเลือกตามชอบ” ของการเคหะแห่งชาติ หรือโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3ไปจนถึงมาตรการผ่อนคลาย LTV หรือล่าสุด ธนาคารอาคารสงเคราะห์ยังได้จัดทำ “โครงการสินเชื่อบ้าน DD (ดี๊ดีย์)” สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหรืออาคารชุดกับดีเวลอปเปอร์ที่มีข้อตกลงร่วมกับธนาคารฯ โดยได้รับดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.80%
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันที่เข้าสู่ครึ่งปีหลังของปี 2567 ระดับดีมานด์ที่อยู่อาศัยในตลาดยังคงลดลง ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการทุกระดับโดยเฉพาะกลุ่มอาคารชุดและบ้านแนวราบที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งปัญหาหลักที่ยืดยาวมาตลอดช่วงสิบปีที่ผ่านมาคือเรื่องหนี้ครัวเรือน จนปัจจุบันมีอัตราสูงกว่า GDP ของประเทศ ขณะนี้ก็ยังเป็นโอกาสที่ดีของคนที่ต้องการซื้อบ้าน เพราะค่าแรงขั้นต่ำที่จะปรับเป็น 600 บาท ยังไม่ประกาศใช้ ทำให้ต้นทุนวัสดุและค่าแรงงานก่อสร้างยังไม่ถูกปรับขึ้น ราคาบ้านก็ยังไม่ถูกปรับตาม ประกอบกับการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการค่อนข้างเข้มข้น ทำให้ผู้ซื้อได้เปรียบในการเลือกซื้อบ้านที่มีคุณภาพที่ดี ในราคาที่ยังไม่สูงมากนัก
“โดยส่วนตัวมั่นใจว่ารัฐบาลใหม่จะยังคงยกประเด็นหนี้ครัวเรือนเป็นวาระสำคัญ และจะให้ความสำคัญกับการที่คนไทยได้เป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ในราคาที่เหมาะสม เพื่อเป็นหลักประกันคุณภาพชีวิตของคนไทยที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์จะร่วมกันพิจารณาลดดอกเบี้ยหรือกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ระยะยาว เพื่อช่วยลดภาระและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้กู้ในการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งยังช่วยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายย่อย เข้าถึงแหล่งเงินทุนและช่วยลดภาระหนี้” นายวรยุทธ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี