“ภูมิธรรม”นำภาครัฐและเอกชน ทำลายของกลางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 1.2 ล้านชิ้น มูลค่า 325 ล้านบาท สร้างความเชื่อมั่นคู่ค้า นักลงทุน เจ้าของสิทธิ์ สินค้าปลอมจะไม่กลับคืนสู่ตลาดอีกและดูแลผู้บริโภคจากสินค้าที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐาน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ณ หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เข้าร่วมในพิธีด้วย ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปกป้องคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ ปราบปรามการละเมิดอย่างจริงจัง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และของกลางที่จับกุมได้จะถูกนำมาทำลายอย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า นักลงทุน และเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาว่าสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จะไม่ถูกนำกลับมาหมุนเวียนในท้องตลาดได้อีก

ทั้งนี้ ยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้สาธารณชน ได้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดจากการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพร่างกายของผู้บริโภคอันเนื่องมาจากการใช้สินค้าปลอมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ได้มาตรฐาน

สำหรับของกลางที่นํามาทําลายในครั้งนี้มีหลายประเภท เช่น เครื่องแต่งกาย นาฬิกา กระเป๋า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่รถยนต์ รวมทั้งสินค้าประเภทยา เครื่องสําอาง อาหารและเครื่องดื่ม โดยสินค้าทั้งหมดเป็นของกลางจากการจับกุมและตรวจยึดของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กรมศุลกากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้วรวมจํานวนทั้งสิ้น 1,249,588 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า 325 ล้านบาท

“เรากำลังเข้าสู่ระบบการค้าโลกใหม่ ดังนั้นเราต้องเคารพในสติปัญญาสร้างสรรค์ของบุคคลในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสิ่งต่างๆ ประดิษฐ์เป็นสินค้า ต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ผู้ประกอบการ และผู้ผลิตสินค้า ว่ารัฐบาลไทยตั้งใจอย่างจริงจัง นอกจากการให้ความคุ้มครองนักลงทุน ผู้ผลิตและผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคชาวไทยด้วย เราเอาใจใส่ในการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่หน่วยงานต่างชาติห่วงใย ผมได้พบกับเอกราชทูต ผู้นำประเทศหลายประเทศ ได้หารือเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ โดยขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เป็นกำลังสำคัญ และเราก็มีการดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ และวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ก็ได้เชิญเอกอัครราชทูตจากต่างประเทศ ตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ มาร่วมพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ให้เห็นถึงความตั้งใจและความปรารถนาดีของรัฐบาลไทย ช่วยบอกกล่าวกับนักลงทุนและผู้เกี่ยวข้องด้านทรัพย์สินทางปัญญาว่า ประเทศไทยใส่ใจในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา และทำอย่างจริงจัง เราจัดการกับทุกแพลตฟอร์มหากมีสินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เราจะดำเนินคดีเต็มที่” นายภูมิธรรม กล่าว

ทั้งนี้ จากรายงานผลการจัดสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ประจําปี 2567 ได้ชื่นชมการดําเนินการปราบปรามที่เป็นรูปธรรมของประเทศไทย แต่ประเทศไทยยังคงสถานะอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List : WL) ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงพร้อมดำเนินการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มข้นต่อไป โดยตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากบัญชีดังกล่าว