วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568
8 พฤศจิกายน 2567 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน GAC AION ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากจีน จับมือกับ BOI เฟ้นหาผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทยผ่านการเจรจาธุรกิจในงาน “AION Sourcing Day” รองรับการเดินเครื่องผลิตรถยนต์ EV ในปี 2568 ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในอาเซียน เผยยอดเจรจาธุรกิจ 74 บริษัท คาดเกิดมูลค่าซื้อขายชิ้นส่วนในประเทศเพิ่มอีกกว่า 2,250 ล้านบาท
_0.jpg)
นายโอเชียน หม่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า GAC AION มีความเชื่อมั่นในอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบาย "30@30" ของรัฐบาลไทยอย่างเต็มที่ ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ให้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเราจะดำเนินงานตามแนวคิดการพัฒนาที่เน้นการเติบโตในระยะยาว ผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตั้งใจที่จะขยายฐานในประเทศไทย และนำระบบที่ครบวงจรเข้ามาพัฒนาต่อยอดในประเทศ งาน Sourcing Day ครั้งนี้ก็เป็นการยืนยันถึงการผนึกกำลังกับทรัพยากรที่มีคุณภาพในท้องถิ่น เพื่อผลักดันระบบอุตสาหกรรมออกไปสู่ระดับโลก”
_0.jpg)
สำหรับบริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำจากประเทศจีน ที่มียอดขายสูงสุดสามอันดับแรกของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ทั่วโลก ด้วยยอดขายรวมกว่า 480,000 คันต่อปี และมีอัตราการเติบโตด้านยอดขาย เพิ่มเฉลี่ยร้อยละ 77 ต่อปี โดยเมื่อปี 2566 ทาง GAC AION ได้ตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานผลิตในประเทศไทย ด้วยมูลค่าเงินลงทุนกว่า 5,600 ล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 20,000 คันต่อปี ถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่แห่งแรกในต่างประเทศของบริษัท ซึ่งในอนาคตบริษัทมีแผนจะขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เพื่อป้อนให้กับสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าตามโครงการนี้
_0.jpg)
และเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และ นายโอเชียน หม่า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมกันจัดงาน “GAC AION Sourcing Day” ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ เพื่อจัดหาชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในประเทศ สำหรับสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ที่จะเริ่มผลิตช่วงต้นปี 2568 ใน 7 กลุ่มชิ้นส่วนสำคัญ ได้แก่ Interior Parts Group, Exterior Parts Group, E&E Parts Group, Chassis Parts Group, Car Body Parts Group, Traction Motor Parts Group และ Battery Parts Group โดยมีบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 74 บริษัท เข้าร่วมงาน
_0.jpg)
“การจัดงานครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำความร่วมมือระหว่างบีโอไอกับ GAC AION ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเฉพาะการยกระดับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ให้มีโอกาสเข้าสู่ Supply Chain ของ EV ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายชิ้นส่วนในประเทศ การรับช่วงการผลิต การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย โดย GAC AION ก็จะได้พบกับซัพพลายเออร์ในประเทศที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีประสบการณ์ทำงานร่วมกับค่ายรถยนต์ระดับโลกมาแล้ว อีกทั้งมีที่ตั้งอยู่ใกล้โรงงานของ GAC AION จะช่วยให้โรงงานสามารถผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีต้นทุนโลจิสติกส์ที่ลดลง ขณะที่ผู้ประกอบการไทยก็จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการเข้ามาลงทุนของบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ” นายนฤตม์ กล่าว
สำหรับลูกค้าที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า AION และ HYPTEC รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มาพร้อมกับฟีเจอร์และเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก สามารถเข้าไปทดลองขับได้ที่ศูนย์บริการ AION ทั่วประเทศ และสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.aionauto.com/
Facebook : https://www.facebook.com/AIONthailand
Instagram : https://www.instagram.com/aion_thailand/
X (Twitter) : https://x.com/AION_TH
Tiktok : https://www.tiktok.com/@aion_thailand
เลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เลือกแพลตฟอร์ม EV AION
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี