เลขา BOI เผยไทยเนื้อหอม ตปท.แห่ตั้งฐานผลิตในไทย หลัง"โดนัล ทรัมป์"หวนนั่งเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ชี้เราเป็นกลางดึงประเทศมหาอำนาจขยายลงทุน

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) (BOI) กล่าวถึงการประเมินท่าทีของนักลงทุนต่อนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ หลัง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ว่า ต้องดูรายละเอียดมาตรการนโยบายของรัฐบาล นายโดนัลด์ ทรัมป์

ส่วนที่มีแนวคิดจะดึงการลงทุนกลับสหรัฐฯ นั้น เลขา BOI ระบุว่า จริงๆ แล้วสหรัฐฯ ก็มีเครือข่ายการลงทุนในอาเซียนจำนวนมาก และจำเป็นต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมในภูมิภาคนี้อยู่ และคิดว่าไม่ถึงขั้นตัดขาด ดังนั้น จะต้องดูเป็นอุตสาหกรรมไป เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ จะมีมาตรการแตกต่างกันไป ในแต่ละอุตสาหกรรม

เมื่อถามว่า สัญญาณขณะนี้นักลงทุนจีนเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นหรือไม่ เลขา BOI ยอมรับว่า การจากลงทุนจีนมีเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว และจากที่ไปโรดโชว์สัมมนาที่ประเทศจีน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีนักลงทุนจีนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 600 คน ซึ่งมากกว่าการจัดงานก่อนหน้านี้

เมื่อถามยามว่า การที่มีนักลงทุนจีนเพิ่มเป็นผลพวงมาจากรัฐบาลใหม่สหรัฐหรือไม่ เลขา BOI ยอมรับว่า ใช่ เพราะจีนต้องการกระจายฐานผลิตออกสู่ตลาดโลก จะมองว่าอาเซียนมีความเหมาะสม โดยเฉพาะประเทศไทย จึงทำให้เป็นเหตุผลที่สนใจตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย เห็นได้จากเม็ดเงินการลงทุนของจีนในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า โดยกลุ่มอุตสาหกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เชลล์แบตเตอรี่ และดิจิทัล ขณะที่สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นปีละกว่า 70% รวมถึงการลงทุนจากญี่ปุ่น มีการพัฒนาเติบโต ขยายการลงทุนมากขึ้น

และสถานการณ์สงครามทางการค้าที่จะรุนแรง ทำให้ประเทศผู้ผลิตอุตสาหกรรม หาแหล่งผลิตที่ไม่ใช่เป็นประเทศคู่ขัดแย้ง มีความพร้อมด้านปัจจัยการผลิต จึงเป็นปัจจัยทำให้ประเทศไทยเกิดความโดดเด่นในการรองรับด้านการลงทุนจากทุกฝ่ายจริงๆ เพราะทุกฝ่ายมีความไว้วางใจ มีความเชื่อมั่นในการมาลงทุนในไทย อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นนั้นไม่ใช่เพียงแค่ประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังมีสหรัฐฯ และญี่ปุ่น

- 006