นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวดิ่งในภูเก็ตมีศักยภาพสูงมากรองจากกรุงเทพฯ เป็นผลจากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกนิยมเดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้นตลอดทั้งปี จนเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองรองจากประเทศของตัวเอง และด้วยความได้เปรียบในเรื่องสาธารณูปโภค ตลอดจนสถานที่อันสวยงามของทะเลหรือชายหาดต่างๆ ยังส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ รัสเซีย, จีน, สิงคโปร์ และฮ่องกง หันมาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา แสนสิริได้เดินหน้าขยายการลงทุนในภูเก็ตมาโดยตลอด เป็นจำนวน 8,382 ยูนิต จากทั้งหมด 27 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 26,590 ล้านบาท และคาดว่าภายใน 5 ปี หลังจากนี้ (ปี 2568-2572) จะลงทุนเพิ่มอีก 27 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 25,000 ล้านบาท

“เรามั่นใจในศักยภาพของภูเก็ตเป็นอย่างมาก ทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้สร้างปรากฏการณ์ Always High Season
จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวตลอดทั้งปี คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะสูงถึง 16 ล้านคน ในช่วงปลายปี 2567 สะท้อนการเติบโตของภูเก็ต ส่งผลให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งเพื่ออยู่อาศัย พักผ่อน และลงทุน เพิ่มมากขึ้น และยังทำให้เกิดการพัฒนาโครงการหรูมากมายในระดับBranded Residences”นายอุทัย กล่าว

โดยล่าสุด แสนสิริ ได้ลงทุน 100 ล้านบาท เปิดตัว “The Society”Social Space แห่งแรกของแสนสิริและถือเป็นสำนักงานใหญ่ของแสนสิริอย่างเป็นทางการในภูเก็ต บนทำเลใจกลางย่านเชิงทะเล-บางเทา ไฮไลต์ของโครงการคือการเชื่อมต่อฟังก์ชั่นหลากหลาย ตั้งแต่Day-to-Night Eatery ที่รวมร้านกาแฟและร้านอาหารสเปน, Co-sharing space พื้นที่ทำงาน ประชุมส่วนตัว และpodcast room พร้อมพื้นที่จัดกิจกรรมและนิทรรศการ รวมถึงยังเป็นพื้นที่จัดแสดงห้องตัวอย่างและ Sales Gallery รองรับลูกค้าแบบไพรเวท