‘บางกอกแอร์เวย์ส’โกยรายได้ 9 เดือนแรก 1.4 หมื่นล้าน โต 26% จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 10% กว่า 3.31 ล้านคน คาดรายได้ปี 67 เป็นไปตามแผน-รายได้ปี 2568 โตราว 10-12% จากปัจจัยการจองตั๋วล่วงหน้าในระบบ

2 ธันวาคม 2567 นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมการบินทุกภูมิภาคทั่วโลกในปี 2567 นี้ ยังคงมีอัตราการเติบโตของปริมาณการขนส่งผู้โดยสารของทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยจากข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) พบว่าการเดินทางระหว่างประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 19.7%  และการเดินทางระหว่างประเทศจากยุโรปสู่ทวีปเอเชียมีอัตราการเติบโตสูงสุด 23.1%

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการบินเติบโตในอีก 3 - 5 ปีข้างหน้า โดยการเดินทางระหว่างประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและสูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ คาดว่าจะเติบโตที่ 17.2% ในปี 2568 จากทิศทางการเดินทางดังกล่าวจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยคาดว่ามีการเติบโตสอดคล้องเป็นไปตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมการบินในระดับภูมิภาค

ภาพรวมการดำเนินงานของบางกอกแอร์เวย์สช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 นี้ บริษัทฯ มีจำนวนผู้โดยสาร 3.31 ล้านคน เพิ่มสูงขึ้น 10 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และเป็นสัดส่วน 75 % ของช่วงก่อนโควิด อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) 82 % ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 จุด เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โดยจะสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ซึ่งมีอัตราขนส่งผู้โดยสารที่ 68% รายได้ผู้โดยสาร 14,006 ล้านบาท เติบโตขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 หรือคิดเป็นสัดส่วน 96% โดยมีกำไรสุทธิ ราว 3,265 ล้านบาทของช่วงก่อนโควิด-19

ขณะเดียวกันการเติบโตธุรกิจภาคการบิน มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเป้าหมาย ผลประกอบการที่ตั้งไว้ทั้งปี 2576 จำนวนเที่ยวบินในปีนี้ 48,000 เที่ยวบิน อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 85% จำนวนผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน เติบโตจาก 3.9 ล้านคนในปี 66 อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร  อยู่ในระดับ 80% และคาดจะมีรายได้ผู้โดยสาร (Passenger Revenue) 17,800 ล้านบาท  ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินประมาณ 3,900 บาทต่อที่นั่ง

“จากตัวเลขพอมั่นใจว่าจะทำรายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ไปจนถึงสิ้นปีนี้ น่าจะเป็นไตรมาสที่ไม่ได้แย่สุดของปี สิ่งที่สามารถช่วย จากวิธีการที่เราดำเนินการ โดยใช้พาร์ทเนอร์จากยุโรป และประเทศอื่นๆ ผู้โดยสารอย่างน้อย 80% ที่เป็นต่างชาติ อีก 20% เป็นคนไทย โดยในปีหน้าคาดการณ์รายได้ จะโตราว 10-12% โดยมีปัจจัยมากจากการจองตั๋วเครื่องบนในระบบ แต่เรายังมีข้อจำกัดของเราคือจำนวนเครื่องบินที่เราจะนำมาเพื่อให้บริการไม่รวดเร็ว และมีผลกระทบจากซัพพลายเชน อะไหล่ การซ่อมบำรุง ปัจจุบันมีปัญหาเยอะ ล่าช้าในการจัดส่ง ซึ่งจะต้องมาวางแผนการใช้งานให้สอดคล้อง” นายพุฒิพงศ์ กล่าว  

ทั้งนี้เพื่อรองรับอุปสงค์การเดินทางที่เติบโตขึ้นโดยในปีหน้า 2567  บริษัทฯ จึงได้จัดหาเครื่องบินรูปแบบแอร์บัสจำนวน 2 ลำ ตระกูลแอร์บัส โดยเริ่ม เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางที่สูงขึ้นช่วงไฮซีซั่น สำหรับแผนการเปิดเส้นทางอื่น ๆ ในอนาคต บริษัทฯ ได้ศึกษาเส้นทางศักยภาพและทยอยกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางที่เคยปฏิบัติการบินในช่วงก่อนโควิด -19 โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเส้นทางบิน “สมุย-กัวลาลัมเปอร์” ในไตรมาส 4 ปี 2568 ที่จะให้บริการทุกวัน จำนวนวันละ 1 เที่ยวบิน เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางและเป็นจุดเชื่อมต่อผู้โดยสารจากยุโรปเดินทางเข้าเกาะสมุย

นอกจากนี้บริษัท มีแผนพัฒนาสนามบินสมุย และสนามบินตราด โดยมีแผนปรับปรุงพื้นที่ผู้โดยสารเพิ่มเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โครงการแรก เป็นโครงการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารสนามบินสมุย คาดใช้งบประมาณในการลงทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่มีเพิ่มมากขึ้น โดยวางแผนปรับปรุงสนามบินเพื่อเพิ่มจำนวนพื้นที่พักคอย (Boarding gate) ภายในอาคารผู้โดยสารจากเดิม 7 อาคาร เพิ่มเป็น 11 อาคาร และเพิ่มเคาน์เตอร์เช็คอิน จำนวน 10 เคาน์เตอร์ รวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์

สำหรับโครงการนี้คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 ปีในการปรับปรุงส่วนต่างๆ  โครงการดังกล่าวจะทำให้สนามบินสมุยสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 1 ล้านคน/ปี เป็น 2 ล้านคน/ปี ซึ่งจะมีการเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางสมุยตามไปด้วยอีกแห่งเป็นการขยายสนามบินตราด งบลงทุน 700-800 ล้านบาท บริษัทมีแผนสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ และขยายระยะทางวิ่ง (runway) เพิ่มเป็น 2,000 -2,100 เมตร จากปัจจุบันความยาวรันเวย์ 1,800 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบินไอพ่นขนาดเล็กได้ อาทิ โบอิ้ง 737 แอร์บัส 320 ขึ้นจากเดิมรองรับได้เพียงเครื่องบินใบพัด  ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) หรือ ไฮสปีด 3 สนามบิน ยังรอความชัดเจนจากคู่สัญญา ซึ่งหากโครงการนี้ไม่เกิดบริษัท มีแผนสำรองไว้แล้ว

-005