นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินกรุงเทพ(BA)หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่าจากข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) พบว่าการเดินทางระหว่างประเทศของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 19.7% และการเดินทางระหว่างประเทศจากยุโรปสู่ทวีปเอเชียมีอัตราการเติบโตสูงสุด 23.1%

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมการบินเติบโตในอีก 3-5 ปีข้างหน้า การเดินทางระหว่างประเทศของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องและสูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ คาดว่าจะเติบโต 17.2% ในปี 2568 จากทิศทางการเดินทางดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย

สำหรับการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2567 บริษัทฯ มีจำนวนผู้โดยสาร 3.31 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10%เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 รายได้ 14,006 ล้านบาท เติบโตขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 หรือคิดเป็นสัดส่วน 96%มีกำไรสุทธิ 3,265 ล้านบาทของช่วงก่อนโควิด-19 โดยเป้าหมายทั้งปี 2567 อยู่ที่ 48,000 เที่ยวบิน อัตราบรรทุกผู้โดยสาร เฉลี่ยเท่ากับ 85% จำนวนผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร อยู่ในระดับ 80% และคาดจะมีรายได้ 17,800ล้านบาท

“ปีหน้าคาดรายได้จะโต 10-12% โดยมีปัจจัยมาจากการจองตั๋วเครื่องบินในระบบ แต่เรายังมีข้อจำกัดคือจำนวนเครื่องบินที่จะนำมาให้บริการ ดังนั้นเพื่อรองรับอุปสงค์การเดินทางที่เติบโตขึ้น บริษัทฯ จึงได้จัดหาเครื่องบินรูปแบบแอร์บัส 2 ลำ เริ่มทำการบินระหว่างเดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนเมษายน 2568 เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางที่สูงขึ้นช่วงไฮซีซั่น สำหรับแผนการเปิดเส้นทางอื่นๆ ในอนาคต บริษัทฯ ได้ศึกษาเส้นทางศักยภาพและทยอยกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางที่เคยปฏิบัติการบินในช่วงก่อนโควิด -19 คาดว่าจะเปิดให้บริการเส้นทางบิน “สมุย-กัวลาลัมเปอร์”ในไตรมาส 4 ปี 2568 นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาสนามบินสมุย และสนามบินตราดเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น”