นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงานฉลองครบรอบ 3 ปีของสำนักข่าว The Better ที่จัดขึ้น ณ SCBX Next Tech ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน วานนี้ (27 ม.ค.68) ในงานนี้ นายพิชัย ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ยกระดับการค้าไทย ยืนหนึ่งในเวทีโลก” โดยเน้นถึงความสำคัญของการพลิกโฉมเศรษฐกิจไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก พร้อมชี้ให้เห็นผลงานของรัฐบาลนายกฯแพทองธาร ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งการเติบโตด้านการส่งออก การลงทุน และการขยายตัวของเศรษฐกิจนำพาประเทศไทยกลับเข้าสู่แผนที่โลกอีกครั้ง
นายพิชัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจ พบว่าการส่งออกของไทยในเดือนธันวาคม 2567 ขยายตัวถึง 8.7% และตลอดทั้งปี 2567 ขยายตัวถึง 5.4% ขณะที่การลงทุนจากต่างประเทศก็เพิ่มขึ้น มีการลงทุนสูงถึง 1.13 ล้านล้านบาทในปีที่ผ่านมา ซึ่งการลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามา และการขยายตัวของการส่งออก เป็นเหมือนปรากฏการณ์ Snowball Effect ที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจไทยเติบโตเกิน 3% ในปีนี้ และขยับไปสู่ 5% ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนี้สินและรายได้ของประชาชนยังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้ภาพรวมผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไทยจะเติบโตแต่ที่บางคนรู้สึกว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี ก็เพราะหนี้ค้างเดิมสมัยก่อน แต่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กำลังเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างจริงจัง หากปัญหาหนี้คลี่คลายลง เศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน
ทั้งนี้รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายสำคัญในการเร่งเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) กับหลายประเทศ โดยล่าสุดคือความสำเร็จของ FTA ไทย-เอฟตา ที่ประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และลิกเตนสไตน์ ที่สามารถเร่งรัดการเจรจาจนสำเร็จในเวลาเพียง 3 เดือน ซึ่งเป็น FTA ฉบับที่มีความทันสมัยและมีมาตรฐานสูงเป็นการประกาศให้โลกเห็นว่า ประเทศไทยกลับมาอยู่ในแผนที่โลกอีกครั้งซึ่ง FTA จะเป็นแต้มต่อสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย และจะเดินหน้าผลักดัน FTA กับประเทศอื่นๆ เช่น สหภาพยุโรป (EU) อิสราเอล ภูฏาน ยูเออี เกาหลีใต้ แคนาดา และอังกฤษ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้จัดทำ FTA กับอียู 27 ประเทศให้สำเร็จในปีนี้
ขณะเดียวกันการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่จะเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจไทย เช่น การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ PCB Data Center และ AI ซึ่งต่างประเทศให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพด้านพลังงาน มีไฟฟ้าที่มั่นคงและเพียงพอ ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ มีไฟฟ้าสำรองถึง 16,000 เมกะวัตต์ โดย 29% เป็นพลังงานสะอาด (Green Energy) มาจากสมัยที่ตนเคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน และประเทศไทยมีความเป็นกลาง ทุกประเทศรักเรา อเมริกาก็รักเรา จีนก็รักเรา นอกจากนั้น รัฐบาลยังมีแผนดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมพัฒนาด้านดิจิทัล เปิดโอกาสให้คนเก่งจากทั่วโลกที่เป็น Digital Nomad เข้ามาทำงานในประเทศไทย และขอให้คนไทยเร่งพัฒนาศักยภาพด้าน AI เพื่อเป็นโอกาสของการทำงานในอนาคต
นายพิชัย ระบุในช่วงท้ายถึงความสำคัญของการพัฒนาภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งเป็นจุดแข็งของไทย โดยกระทรวงพาณิชย์จะส่งเสริมสินค้า GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) และพัฒนาสินค้าที่เป็น Thailand Next Level เพิ่มมูลค่าให้สินค้าไทย และสร้าง Thailand Brand เพื่อการันตีคุณภาพสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้า SME ที่มีศักยภาพให้สินค้าเป็นที่ยอมรับในระดับโลก สำหรับการส่งเสริมอาหารไทยจะพลิกโฉม Thai SELECT เป็นตราสัญลักษณ์ที่กระทรวงพาณิชย์ มอบให้กับร้านอาหารไทยให้เทียบชั้นมิชลิน และจะป้องกันปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพจากต่างประเทศ
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จับมือกับ 16 หน่วยงานร่วมกันแก้ปัญหาไขปัญหา ซึ่งสามารถลดปัญหาสินค้าด้วยคุณภาพที่ทะลักเข้ามาในประเทศได้ถึง 27% ใน 1 เดือน และเดือนที่ 2 ลดลงถึง 20% และการแก้ปัญหานอมินีได้ดำเนินคดีไปแล้ว 747 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 11,000 ล้านบาท ซึ่งนายพิชัยยืนยันว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยกำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขอให้คนไทยมั่นใจในการทำงานรัฐบาลนายกฯแพทองธาร และกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งมั่นจะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นต่อเนื่องในอนาคต ทั้งการค้าการ การลงทุน และการขยายตัวของเศรษฐกิจ
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี