นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2568) ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการท่าอากาศยานร้อยเอ็ด เพื่อติดตามความคืบหน้าของแผนงานต่าง ๆ  โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพท่าอากาศยาน รวมถึงต้องยกระดับด้านความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อเพิ่มความมั่นใจแก่ประชาชนผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน

    ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ดำเนินการตามแผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างประสิทธิภาพ  ด้านการคมนาคม อาทิ การติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิด Dual View X-Ray การติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ LEDS พร้อมระบบตรวจสอบต่อเนื่อง (Inline) และอุปกรณ์ การปรับปรุงระบบตรวจอาวุธและวัตถุระเบิด
แบบ EDS พร้อมสายพานลำเลียงสัมภาระห้องควบคุมและอุปกรณ์ การจัดซื้อยานพาหนะพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับ
สิ่งแปลกปลอมบนทางวิ่ง และการปรับปรุงระบบจัดการรักษาความปลอดภัยพื้นที่การบิน เป็นต้น

    นางมนพร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ ทย. เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเตรียมพร้อมรองรับความต้องการ การเดินทางที่เพิ่มขึ้นของประชาชน และรองรับการเพิ่มปริมาณเที่ยวบิน รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ขึ้น โดยการขยายทางวิ่งเป็นขนาด 45 x 2500 เมตร จากเดิมมีขนาด 45 x 2100 เมตร ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการประกาศแผนจัดซื้อจัดจ้าง เบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2573 รวมไปถึงการขยายขีดความสามารถและพัฒนาท่าอากาศยานให้เพียงพอต่อความต้องการการใช้บริการในอนาคต

    ทั้งนี้ การดำเนินงานจะช่วยรองรับผู้โดยสารจากจังหวัดข้างเคียง ได้แก่ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ยโสธร มุกดาหาร
ที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการปีละไม่ต่ำกว่า 300,000 คน นอกจากนี้ ยังทำให้ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด มีความพร้อมในการเป็นสนามบินศุลกากร สามารถประทับตราผ่านด่านศุลกากรได้โดยไม่ต้องไปผ่านที่ท่าอากาศยานขอนแก่น หรือท่าอากาศยานอุบลราชธานี พร้อมทั้งสามารถรองรับเครื่องบินเช่าเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟลต์จากต่างประเทศได้โดยตรง

    ด้านนายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า ทย. พร้อมรับนโยบายและดำเนินการตามแผน
อย่างเคร่งครัด เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของท่าอากาศยานภายใต้การดูแลของ ทย. ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกด้าน
โดยในส่วนของท่าอากาศยานร้อยเอ็ด หลังจากที่พัฒนาท่าอากาศยานแล้วบางส่วนเสร็จสิ้นเมื่อปลายปี 2567 บนพื้นที่ทั้งหมด 2,685 ไร่ ทำให้ขณะนี้มีขนาดอาคารที่พักผู้โดยสาร 5,723 ตร.ม. สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 600 คน/ชม. หรือ 1.7
ล้านคน/ปี จากเดิมรองรับได้ 300 คน/ชม.หรือ 864,000 คน/ปี ความยาวทางวิ่งขนาด 45 x 2,100 เมตร ทางขับและลานจอดสามารถรองรับอากาศยานแบบ B737 ได้ 4 ลำในเวลาเดียวกัน ลานจอดรถยนต์รองรับการจอดรถยนต์ได้ 471 คัน ปัจจุบันมีสายการบินไทยแอร์เอเชียให้บริการเส้นทาง ดอนเมือง – ร้อยเอ็ด – ดอนเมือง วันละ 4 เที่ยวบิน มีสถิติผู้โดยสารในปี 2567 จำนวน 342,970 คน และเที่ยวบิน 2,114 เที่ยวบิน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2568    (ต.ค. 67- ม.ค. 68) มีจำนวนเที่ยวบิน 379 เที่ยวบิน มากกว่าที่คาดการณ์ 2.71% และมีจำนวนผู้โดยสาร 121,315 คน มากกว่าที่คาดการณ์ 5.87%

-032