ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่มนักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-14 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 9,350.06 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)ซื้อสุทธิ 662.53 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 9,947.33 ล้านบาทนักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ซื้อสุทธิ 18,634.86 ล้านบาท

ทั้งนี้ เฉพาะช่วงวันที่ 1-14 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 8,171.80 ล้านบาท โบรกเกอร์ขายสุทธิ 814.36 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,386.95 ล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 7,599.21 ล้านบาทบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนก่อนจะปิดลบช่วงท้ายสัปดาห์ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อเนื่องเกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้า หลังมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากทุกประเทศ

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลบางส่วนต่อประเด็นการเรียกเก็บภาษีข้างต้นหลังประเมินว่าไทยน่าจะได้รับผลกระทบในกรอบจำกัด ประกอบกับมีปัจจัยบวกจากประเด็นข่าวที่ว่ากระทรวงการคลังมีแนวคิดจะปรับปรุงเงื่อนไขกองทุน LTF เพื่อพยุงตลาดหุ้นไทย รวมถึงแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคป โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี ดัชนีหุ้นไทยพลิกร่วงอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยเผชิญแรงกดดันจากแรงขายหุ้นบิ๊กแคป โดยเฉพาะหุ้นผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ประกอบกับบรรยากาศยังคงถูกกดดันจากความไม่แน่นอนของประเด็นสงครามการค้าโดยเฉพาะการที่สหรัฐฯ เตรียมเดินหน้าเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) จากทุกประเทศที่เก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ

แนวโน้มสัปดาห์นี้( 17-21 กุมภาพันธ์ 2568)บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย คาดแนวรับที่ 1,250 และ 1,235 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,300 และ 1,310 จุด ตามลำดับ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2567 ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนกุมภาพันธ์(เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ บันทึกการประชุมเฟด และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนกุมภาพันธ์ของจีน