นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า ในปี 2568 ชีวาทัยเดินหน้าศึกษาเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมุ่งเน้นเซ็กเมนต์ที่บริษัทถนัดและได้รับผลตอบรับที่ดีมาตลอด ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมในช่วงราคา 2-4 ล้านบาท ผ่านแบรนด์หลัก Chewathai Hallmark โดยวางแผนการซื้อที่ดินใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,395 ล้านบาท และยังมีการเจรจาเพื่อเข้าซื้อคอนโดระหว่างก่อสร้างเพื่อการรับรู้รายได้ที่เร็วขึ้นอีก 1-2 โครงการในปีนี้ เพื่อให้ได้เป้าหมายที่ต้องการการรับรู้รายได้ปี 2568 จำนวน 2,000 ล้านบาท และบริษัทยังขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและเชื่อมโยงกับธุรกิจเดิมของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจบ้านมือสอง ภายใต้แบรนด์ Chewa Renue และธุรกิจนิติบุคคล พร้อมศึกษาธุรกิจอื่นๆ ที่จะส่งเสริมและสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามด้านกลยุทธที่จะนำมาใช้ในปีนี้ มีการต่อยอดนโยบายด้านการขายที่ได้รับผลตอบรับที่ดี คือโปรโมชั่น “อยากซื้อต้องได้ซื้อ” ที่มาในรูปแบบของการให้บริการ financial consultant เข้าดูแลลูกค้าที่มีปัญหาด้านการจัดการเอกสารการกู้สินเชื่อ การบริหารภาระหนี้ หรือปัญหาด้านวินัยทางการเงิน จนไม่สามารถกู้ได้ ชีวาทัยจะเข้าไปดูแลให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าในระยะยาวต่อเนื่องจนสามารถกู้ผ่านและโอนได้ ทำให้มี backlog ส่วนหนึ่งที่อยู่กับเรานานมาก บางรายมากกว่า 6 เดือน และค่อยๆปรับปรุงวินัยทางการเงินจนสามารถกู้ได้สำเร็จ นอกจากนี้กลยุทธ์เพื่อส่งเสริมด้านการแข่งขัน จะมีการจัดโปรโมชันใหญ่ของชีวาทัย “MEGA SALES” เพื่อคืนกำไรแก่ลูกค้าตลอดปี คาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนลดภาระหนี้หุ้นกู้รวม 470 ล้านบาท โดยปีนี้สามารถลดภาระหนี้ลงได้แล้ว 250 ล้านบาท จากการชำระคืนหุ้นกู้ ภายในปี 2568 ยังตั้งเป้าจะเร่งลดหนี้ลงอย่างต่อเนื่องอีก 220 ล้านบาท การลดภาระหนี้ลงตามแผนจะทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนทางการเงินของบริษัท และยังทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง มีสภาพคล่องทางการเงินสูงขึ้น ที่สำคัญยังจะมีผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลงด้วย
ปัจจุบัน บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ( ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567) มูลค่ารวม 949 ล้านบาท นอกจากรายได้ด้านการขายอสังหาริมทรัพย์เดิมของชีวาทัยแล้ว ยังเร่งสร้างรายได้จากโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการหลักที่จะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม “ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา” มูลค่าโครงการ 1,014 ล้านบาท ภายใต้การร่วมทุนกับบริษัท นิปปอน สตีล โควะ เรียล เอสเตท จำกัด (NIPPON STEEL KOWA REAL ESTATE) หรือ NSKRE ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าในพื้นที่เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ ยังมีธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่า ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ระยอง ภายใต้การร่วมทุนกับบริษัท ยูเวิร์ค 999 และ Neo727 ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความแข็งแกร่งและมีประสบการณ์ที่ได้รับการยอมรับ
สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมในปีที่ผ่านมา อยู่ในช่วงหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ประกอบกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน แม้มีมาตรการกระตุ้นของภาครัฐที่ลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองจาก 3% เหลือ 0.01% พร้อมขยายเพดานจากราคา 3 ล้านบาทเพิ่มเป็น 7 ล้านบาท แต่ก็ยังมีปัจจัยด้านลบในหลายเรื่องที่ส่งผลกระทบโดยรวม เช่น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้กระทบต่อความมั่นใจของลูกค้าในภาพรวมสำหรับชีวาทัย แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากกระแสของลูกค้าที่ชะลอตัว
อย่างไรก็ตามจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า จำนวนลูกค้าที่เข้าชมโครงการไม่ได้ลดลง แต่ลูกค้าใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจนานขึ้น รวมถึงโอกาสในการขอสินเชื่อสำเร็จลดลง ทางบริษัทจึงมีการปรับนโยบายและโปรโมชั่นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงให้คำปรึกษาในการขอสินเชื่อแก่ลูกค้าในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีการจัดเก็บข้อมูลและสอบถามความคิดเห็นจากลูกค้า เพื่อตอบสนองเป็นโปรโมชั่นและบริการที่ทำให้ลูกค้าทุกคนประทับใจ มั่นใจในคุณภาพของสินค้า และการดูแลทั้งก่อนและหลังการขาย แม้ว่าจะมีผลกระทบจากกระแสของตลาดที่มีการให้โปรโมชั่นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้น
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี