การลงทุนในพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กำลังมาแรงแบบไม่แผ่ว ด้วยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของไทย ที่มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านต่างๆ อย่างครบถ้วน จึงเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ที่ถนนทุกสายต่างมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกของไทย ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจทั่วโลก ที่ต้องปรับตัวทั้งในด้านการยกระดับความสามารถในการแข่งขันภายใต้ความยั่งยืน บวกกับปัจจัยที่เกิดจากประเทศมหาอำนาจ เริ่มประกาศใช้มาตรการการกีดกันทางการค้า ที่จะเป็นกลไกกำหนดทิศทางการผลิตของผู้ประกอบการทั่วโลก ซึ่งความท้าท้ายเหล่านี้ จะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายฐานการผลิต ไปสู่พื้นที่การลงทุนที่มีศักยภาพ และมีความพร้อมรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ
ดังนั้นในพื้นที่ EEC ที่มีนิคมอุตสาหกรรมตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นนิคมฯที่มีผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาประกอบกิจการ ตั้งโรงงานผลิต ดังนั้นการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการลงทุน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ทั้งในด้านการติดต่อหน่วยราชการ ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของไทย ที่ต้องผ่านหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งด้านศุลกากร การขอใบอนุญาตก่อตั้งโรงงาน ขออนุญาตนำเข้าเครื่องจักร ใบอนุญาตทำงานในประเทศ การขอส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น หากลดขั้นตอนและอุปสรรคเหล่านี้ จะเป็นกลไกและสร้างแรงหนุนให้เกิดการลงทุน FDI อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ทั้งนี้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการจัดตั้งศูนย์ "Government All-Service Center" บนพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆนี้ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการของราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกครอบคลุมกับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงผู้ที่ต้องการใช้บริการในพื้นที่โดยรอบ นับเป็นศูนย์บริการรัฐแบบเบ็ดเสร็จแห่งแรกในนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะที่แรกซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี ถือเป็นจุดสำคัญสำหรับผู้ประกอบการมากกว่า 800 ราย เข้าดำเนินธุรกิจอยู่ในพื้นที่ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการให้บริการที่มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงรองรับนักลงทุนใหม่ที่เล็งเห็นศักยภาพของอมตะ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้พื้นที่แห่งนี้เติบโตเป็นศูนย์กลางธุรกิจและอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งได้ในอนาคต พร้อมยกระดับการบริการครบจบทุกต้องการที่นี้ที่เดียว
รัฐ-เอกชน สร้างกลไก เข้าถึงหน่วยบริการรัฐ ดึงลงทุนใหม่
สำหรับศูนย์ Government All-Service Center เป็นความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่มุ่งยกระดับการบริการให้ครบวงจร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตและทำธุรกรรมกับภาครัฐ
ความพร้อมการให้บริการของศูนย์ฯ แห่งนี้ จะเป็นตัวขับเคลื่อนกระบวนการอนุมัติและอนุญาตต่าง ๆ ให้มีความรวดเร็ว โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับนโยบาย "การปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจใหม่" ที่มุ่งเน้นการสร้างระบบราชการที่โปร่งใส สะอาด สะดวก และเป็นมิตรต่อนักลงทุน โดยพื้นที่ดังกล่าวมีสถานประกอบการด้านอุตสาหกรรมจำนวนมาก ดังนั้นศูนย์ฯ จะมีส่วนผลักดันให้เกิดการลงทุน เพื่อให้มีความพร้อมในทุกๆด้าน ถือเป็นก้าวสำคัญในการให้บริการสำหรับผู้ประกอบการและประชาชนที่เข้ามาติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ลงทุน จ.ชลบุรี
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปี 2568 เชื่อมั่นว่า จะมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก เราจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับ โดยเฉพาะ การส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มธุรกิจคุณภาพสูง เช่นในกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค เพื่อมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ในด้านต่างๆ ให้กับคนไทยมากยิ่งขึ้น แม้ว่าบนสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ในปัจจุบัน ที่หลายฝ่ายกังวลมองเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มองว่าเป็นโอกาส และเป็นจังหวะที่สำคัญ ที่เราต้องดึงการลงทุน เข้ามาในประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพแรงงานของไทย เพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากสามารถสร้าง ดังนั้นการเลือกบริษัทที่ดี และมีคุณภาพเข้ามาลงทุนในช่วงนี้ มั่นใจว่า เราจะเป็นฐานการผลิตในระยะยาวต่อไป อีก 20-30 ปี นับเป็นความท้าท้ายในด้านการขับเคลื่อนนโยบายการลงทุน ที่จะผลักดันให้ไทยเป็นเป้าหมายการลงทุนที่สำคัญของภูมิภาค
"Government All-Service Center" จะช่วยส่งผลดีต่อภาคการผลิต ในการวางระบบการบริหารจัดการด้านการติดต่อหน่วยงานราชการให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งในอดีตอาจต้องใช้ระยะเวลายาวนาน ทำให้สูญเสียโอกาสในการลงทุนของผู้ประกอบการ”
ขณะที่ นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์นี้เป็นการยกระดับการให้บริการในนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของประเทศ ศูนย์นี้จะช่วยให้การติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อนของขั้นตอนต่าง ๆ และส่งเสริมให้การดำเนินธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมเป็นไปอย่างราบรื่นและมีศักยภาพมากขึ้น
"Government All-Service Center มองว่าไม่ใช่เพียงแต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ยุคใหม่ ที่เน้นความคล่องตัวและความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล"นายวิกรมกล่าว
ศูนย์บริการ ตอบโจทย์นักลงทุน
ทั้งนี้นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และทันสมัย ของการให้บริการ ที่ไม่เพียงแต่รองรับผู้ประกอบการในนิคมเท่านั้น แต่ยังมีแผนขยายการให้บริการไปยังหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ รวมถึงสถาบันการศึกษาและองค์กรที่มีบทบาทต่อภาคอุตสาหกรรม สร้างระบบซัพพลายเชนของธุรกิจให้เกิดการขยายตัว และสามารถรองรับกับความต้องการของภาคการผลิตได้ทั้งระบบ เพื่อการลงทุนที่มีศักยภาพ มากยิ่งขึ้น โดย ศูนย์บริการรัฐแบบเบ็ดเสร็จ นายพรรษา ใจชน ผู้จัดการฝ่ายประสานงานราชการและนิติกรรม บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเป้าหมายการดำเนินงานของศูนย์ฯ
โมเดลศูนย์ฯบริการนักลงทุนแห่งแรกรับลงทุน EEC
นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ปัจจุบันมีผู้ประกอบการมากกว่า 800 ราย ที่ดำเนินธุรกิจในพื้นที่ และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ทำให้การเปิดศูนย์ Government All-Service Center เป็นภาระกิจของภาครัฐและเอกชน ที่จะปูทางให้กับนักลงทุนรายใหม่ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้น ในแผนการขยายการลงทุนในพื้นที่ EEC
ทั้งนี้การอำนวยความสะดวกต่อการลงทุนเป็นเป้าหมายที่สำคัญ ทีก่อให้เกิดการตัดสินใจที่นักลงทุน จะต้องได้รับความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส ศูนย์ Government All-Service Center ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี แห่งนี้ จะเป็นต้นแบบของการให้บริการที่ครบวงจร และเป็นส่วนสำคัญต่อการเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี