บมจ. เน็คซ์ แคปปิตอล (NCAP) เดินหน้าสู่ปี 68 ด้วยกลยุทธ์เติบโตอย่างมั่นคง ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% โดยยังคงมุ่งเน้นสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ รับดีมานด์ในตลาด และขยายพอร์ตไปยังสินเชื่อจำนำทะเบียนเล่มรถจักรยานยนต์ (Title Loan) ที่คาดว่าจะโตขึ้นกว่า 10 เท่าในปีนี้ ปักธงคุมหนี้เสีย (NPL) ไม่เกิน 1.8% อีกทั้ง แนวโน้มต้นทุนทางการเงินดีขึ้น และการใช้เทคโนโลยีช่วยขยายธุรกิจ รวมถึงการบริหารภายในทำได้ดีกว่าคาด ทำให้สามารถรับมือดอกเบี้ยรับ EIR ไม่เกิน 23% ต่อปี สะท้อน NCAP ยังรักษาความสามารถในการสร้างรายได้และกำไร มีพอร์ตที่แข็งแกร่ง สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว

นายพุฒิพันธ์ เตยะราชกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP หนึ่งในผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า ภาพรวมปี 2568 บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มความต้องการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ยังคงแข็งแกร่ง สอดรับกับข้อมูลจาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ระบุว่า ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ปี 2567 อยู่ที่ 1.7 ล้านคัน และคาดว่า ปี 2568 จะมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าสินเชื่อใหม่เติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปี 2567 มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 5,690 ล้านบาท และพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 9,626 ล้านบาท โดยยังคงมุ่งเน้นไปที่สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ พร้อมกับ ขยายพอร์ตไปยังจำนำทะเบียนเล่มรถจักรยานยนต์ (Title Loan) ภายใต้ Next Money ซึ่งคาดว่าพอร์ตสินเชื่อสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 10 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นลูกค้าเก่า NCAP ที่มีประวัติการปิดบัญชีปกติ ควบคู่กับการมองหาลูกค้าใหม่ที่มีคุณสมบัติตรงตามนโยบายสินเชื่อของบริษัทฯ ทำให้พอร์ตสินเชื่อใหม่จะขยายไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงต่อยอดโอกาสการเพิ่มรายได้อื่นๆ โดยการบริการประกันรถจักรยานยนต์ ซึ่งอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจุบัน NCAP มีสาขารองรับการให้บริการสินเชื่ออยู่ที่ 18 สาขา ครอบคลุมทุกภูมิภาค และมีการปรับใช้กลยุทธ์ Digital Lending ผ่าน Mobile Application เพื่อขยายพื้นที่การให้บริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นโดยไม่เพิ่มสาขา เพื่อการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ยังเติบโตดี ข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุถึงภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศ มียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.7 ล้านคัน  และคาดปีนี้ยอดผลิตมีทิศทางเพิ่มขึ้น โดยบริษัทมุ่งเน้นบริหารจัดการการอนุมัติสินเชื่อ และควบคุมหนี้อย่างรัดกุม สะท้อนจากภาพรวมคุณภาพหนี้ที่จัดการได้ดีขึ้น โดย ณ สิ้นปี 2567 NPL จากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 1.26% ในขณะที่ NPL รวมของบริษัทอยู่ที่ 1.83% ซึ่งได้รับผลกระทบจากสินเชื่อรถบรรทุกที่มี OD สูงขึ้นในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ด้วยการบริหารจัดการที่เข้มงวด มีการเจรจาต่อรองให้ลูกค้าเข้ามาผ่อนชำระมากขึ้น จึงตั้งเป้าในปี 2568 บริษัทยังคงตั้งเป้ารักษาระดับ NPL รวมไม่เกิน 1.8%

“ไฮไลท์ในปี 2567 NCAP ประสบความสำเร็จในการขยายการเติบโตอย่างมั่นคงมียอดปล่อยสินเชื่อทำได้เกินเป้า อัตราส่วนการให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value) มีสัดส่วนลดลง และได้กำหนดเงินดาวน์ในระดับเหมาะสม สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีขึ้น และมีคุณภาพหนี้ดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ ต้นทุนค่า Incentive ที่จ่ายให้ดีลเลอร์ มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จากการแข่งขันที่ลดความรุนแรงลง ภาพรวมต้นทุนทางการเงินมีทิศทางที่ดีขึ้น สามารถสร้าง Productivity ได้ดีขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายเทียบกับรายได้และกำไรดีขึ้น ส่งผลให้ NCAP สามารถรองรับอัตราดอกเบี้ยรับ จากที่สำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้กำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ย (Effective Interest rate : EIR) ของสัญญาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไม่เกินอัตรา 23% ต่อปี ตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา ควบคู่กับการควบคุมต้นทุนให้เหมาะสม ซึ่งเราจะรักษาศักยภาพการเติบโต สนับสนุนให้ปี 2568 เป็นปีที่สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป” นายพุฒิพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานปี 2567 ยังคงรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้เผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว บริษัทมีรายได้ 2,016.04 ล้านบาท กำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 239.69 ล้านบาท มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่รวมอยู่ที่ 5,690 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 13% เหตุผลหลักจากการหยุดการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุก เนื่องจากต้นทุนอยู่ในระดับสูง รายละเอียดการปล่อยสินเชื่อแบ่งเป็น ยอดปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์จำนวน 5,679 ล้านบาท และสินเชื่อจำนำทะเบียนเล่มรถจักรยานยนต์ ภายใต้ Next Money จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่บริษัทฯ มองเห็นโอกาส และพอร์ตที่มีคุณภาพ

-031