ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดพิจิตรเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร เพื่อดำเนินคดีกับท่าข้าวแห่งหนึ่งในอำเภอสากเหล็ก หลังเกษตรกรร้องเรียนว่าขายข้าวเปลือกให้ แต่ยังไม่ได้รับเงินตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2567 สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิจิตรตรวจสอบพบว่า ท่าข้าวดังกล่าวเคยได้รับอนุญาตประกอบกิจการค้าข้าว แต่ใบอนุญาตหมดอายุตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 และไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาต จึงถือเป็นการประกอบการค้าข้าวโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 มาตรา 9 และมีความผิดตามมาตรา 18 มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาทหรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งปรับทั้งจำ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิจิตร ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร เพื่อดำเนินคดีต่อไป 

ทั้งนี้ ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์เผยว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของเกษตรกร และขอให้ผู้ประกอบการค้าข้าวปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาการละเมิดสิทธิของเกษตรกรและการดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมกับสำนักงานชั่งตวงวัดสาขา ตรวจสอบกระบวนการรับซื้อข้าวเปลือก รวมถึงเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้นอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันปัญหาการโกงน้ำหนักและดูแลความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร

-032