วันเสาร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
หวั่น‘ศึกกำแพงภาษี’ทำลายระเบียบโลก‘การค้าเสรี’ แนะไทยต้องรวมอาเซียนต่อรอง‘สหรัฐฯ’

หวั่น‘ศึกกำแพงภาษี’ทำลายระเบียบโลก‘การค้าเสรี’ แนะไทยต้องรวมอาเซียนต่อรอง‘สหรัฐฯ’

วันอาทิตย์ ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2568, 19.45 น.
Tag : ระเบียบโลก อาเซียน กำแพงภาษี ทรัมป์ สหรัฐอเมริกา การค้าเสรี
  •  

6 เม.ย. 2568 รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การทำงานเชิงรุกเพื่อรับมือกับผลกระทบจากภาษีตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยไม่ให้จีดีพีของไทยขยายตัวต่ำกว่า 2% หากไม่สามารถเจรจาลดภาษีได้เลย มีโอกาสเช่นเดียวกันที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยอาจติดลบถ้าภาคส่งออกติดลบเกิน 5%

ทั้งนี้ การผนึกกำลังกับประเทศอาเซียนเพื่อไปเจรจาต่อรองร่วมกันจะเพิ่มอำนาจต่อรองให้ประเทศไทย ผู้นำอาเซียนต้องหารือกัน หากแต่ละประเทศเจรจาแบบทวิภาคีกับสหรัฐฯ จะไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลยและอาจต้องทำตามผลประโยชน์ทางการค้าและเศรษฐกิจตามที่สหรัฐฯ ต้องการเป็นหลัก การลดอัตราภาษีให้กับสินค้าจากสหรัฐฯ การเปิดตลาดและการเพิ่มการนำเข้าสินค้าสหรัฐฯเ เป็นกลยุทธ์การเจรจาที่ทุกประเทศน่าจะนำมาใช้เช่นเดียวกัน หากกลยุทธ์เหล่านี้ทำในนามของอาเซียน ย่อมมีพลังมากกว่า การไปเจรจาแบบทวิภาคี


อย่างไรก็ตาม การจะนำเอามาตรการลดภาษีนำเข้าให้สินค้าสหรัฐฯ ไปแลกกับการลดกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯต่อสินค้าไทย ก็ต้องดำเนินการโดยประเมินผลกระทบข้างเคียงด้วย เพราะอัตราภาษีนำเข้าของสินค้าบางตัวของไทยนั้นเป็นไปเพื่อปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศ การแลกได้ - แลกเสีย (Trade Off) ล้วนเกี่ยวพันกับมิติเศรษฐศาสตร์การเมืองทั้งสิ้น ไม่ใช่ประเด็นเศรษฐกิจล้วนๆ

อย่างประเด็น Market Access ที่กลุ่มทุนบริการของสหรัฐฯต้องการให้เกิดขึ้น กลุ่มทุนบริการของไทยที่มีอำนาจผูกขาดในโครงสร้างตลาดภายในย่อมต่อต้านไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงและต้องการรักษาอำนาจผูกขาดไว้ต่อไป ไม่ว่า จะเป็น ธุรกิจอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ธุรกิจอุตสาหกรรมการเงิน เป็นต้น หรือ ภาษีเพื่อปกป้องภาคเกษตรกรรมของไทย

“นอกจากนี้ ไทยควรมีบทบาทสำคัญในการ ก่อตั้งและเข้าร่วม North Asia and AEC New Free Trade Zone เนื่องจากจีนประกาศเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 34% และ ประกาศไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศกำลังพัฒนารวมทั้งไทย รวมทั้งประกาศเจรจาตั้ง Free Trade Zone ใหม่กับ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซึ่งไทยและอาเซียนควรเข้าร่วมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Integration) ใหม่นี้” รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าว

รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า ผลของนโยบายกีดกันทางการค้าและการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าของรัฐบาลทรัมป์โดยเฉพาะการเก็บภาษีพื้นฐาน 10% ทุกประเทศพร้อมเก็บภาษีตอบโต้ จะทำให้โครงสร้างและพัฒนาการของระบบการค้าเสรีของโลกเปลี่ยนแปลงไป โลกาภิวัตน์จะไม่เหมือนเดิม การเก็บภาษีตอบโต้ทางการค้าทำให้ระบบการค้าเสรีของโลกภายใต้ระบบ WTO ล่มสลายลง อัตราภาษีศุลกากรขึ้นไปสูงที่สุดในรอบ 100 ปี ทำให้ ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งหนักเช่นเดียวกันกับช่วงเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

และการที่จีนและกลุ่มอียู (สหภาพยุโรป) ก็ตอบโต้ทางการค้าด้วยกำแพงภาษีนำเข้าเช่นเดียวกัน ย่อมทำให้ผลสุทธิทางด้านสวัสดิการเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของโลกจะย่ำแย่ลงอย่างมาก จะสะท้อนมาที่ปริมาณและมูลค่าการค้าโลกจะลดลงอย่างรุนแรงในปีนี้ รวมทั้งอัตราการขยายตัวจีดีพีของโลกจะลดลงจากปัจจัยดังกล่าว ประเทศจีนอาจมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงกว่าครึ่งหนึ่งจากการถูกขึ้นภาษีถึง 54% ในสินค้าทุกประเภท อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอาจต่ำกว่า 3% หากจีนไม่สามารถหาตลาดอื่นๆมาชดเชยได้

ภาคส่งออกเป็นภาคเศรษฐกิจสำคัญคิดเป็นสัดส่วน 14% ของการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจจีนปีนี้ งานวิจัยของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ องค์การการค้าโลก และ ธนาคารโลก ล้วนบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า การปรับเพิ่มภาษีนำเข้าเพื่อปกป้องทางการค้ามีผลเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกมากภายใต้โครงสร้างการผลิตของโลกที่มีลักษณะเป็นห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก

“การขึ้นกำแพงภาษีนอกจากกระทบต่อการเติบโตของการค้า เศรษฐกิจโดยรวมแล้ว ยังกระทบต่อการจ้างงานโดยรวม กระทบต่อผลิตภาพ รวมทั้งกดทับการสร้างมูลค่าของสินค้าและบริการต่างๆ การกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกาอาจทำให้ดุลการค้าสหรัฐฯดีขึ้นในระยะสั้น ปกป้องอุตสาหกรรมและตลาดแรงงานภายในได้ระดับหนึ่ง แต่จะเกิดต้นทุนต่อเศรษฐกิจ โดยอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น อัตราการเติบโตในระยะยาวลดลงได้” รศ.ดร.อนุสรณ์ ระบุ

รศ.ดร.อนุสรณ์ ยังกล่าวอีกว่า  คาดการชุมนุมประท้วงต่อนโยบายรัฐบาลทรัมป์ ความขัดแย้งทางนโยบายในทีมบริหารและที่ปรึกษา อาจส่งผลให้มีการทบทวนนโยบายการกีดกันการค้าและนโยบายอื่นๆ  ขณะที่ อีลอน มัสก์ เสนอเขตการค้าเสรีสหรัฐยุโรปภาษี 0% ส่วน ปีเตอร์ นาวาโร ที่ปรึกษาการค้าของทรัมป์ยังผลักดันให้เก็บภาษีตอบโต้ เศรษฐกิจถดถอยลง

อัตราเงินเฟ้อ ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น จะสร้างแรงกดดันต่อการเดินหน้าต่อในการทำสงครามการค้าและการขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าต่อประเทศต่างๆ อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ อาจปรับขึ้นไปแตะ 3-4% อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอาจโตไม่ถึง 1% จนสร้างแรงกดดันทางการเมืองให้มีการทบทวนนโยบายได้ มูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯหายไป 5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสองวัน และ มีแนวโน้มยังอยู่ในช่วงชาลงต่อไป

นอกจากกำแพงภาษีจากลัทธิกีดกันการค้าจะทำให้เกิดการเบี่ยงเบนทางการค้าแล้ว ยังทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อย้ายฐานการผลิต การเก็บภาษีสินค้าไทยเพิ่มอีก 37% จากภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% อาจทำให้สินค้าส่งออกสหรัฐฯสูงสุด 5 อันดับแรกย้ายฐานการผลิต ประกอบไปด้วย 1.คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ 3.7 แสนล้านบาท สัดส่วนมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ 19.23%) 2.โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ 1.6 แสนล้านบาท สัดส่วนมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ 8.45%)

3.อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ 4.หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ 5.รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้า 15 รายการที่ส่งออกไปสหรัฐฯ สูงสุด ส่วนใหญ่เป็นของบรรษัทข้ามชาติที่ใช้ไทยเป็นฐานผลิตส่งออก ยกเว้น ข้าว อาหารสัตว์และเครื่องนุ่งห่ม แม้นสินค้าหลายตัวผลิตโดยบรรษัทข้ามชาติแต่โรงงานอยู่ในประเทศไทย เสียภาษีเงินได้ให้ไทย ย่อมกระทบต่อจีดีพีไทย กระทบต่อเศรษฐกิจไทย กระทบต่อการจ้างงานในประเทศ

เมื่อการส่งออกเหล่านี้ลดลงอย่างมากจากกำแพงภาษีย่อมส่งผลต่อกระแสรายได้ การขยายของการผลิตในประเทศ ปัญหาการย้ายฐานผลิตของบรรษัทข้ามชาติในไทยจะเร่งตัวขึ้นหากประเทศอาเซียนอื่นๆ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือ มาเลเซีย สามารถรีบไปเจรจาต่อรองได้ก่อนและเจอกับภาษีนำเข้าต่ำกว่า

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงทิศทางทางการค้า (Trade Diversion) ที่ไม่ก่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรของโลกอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดการสูญเสียสวัสดิการสังคมโลกโดยรวม (Social Deadweight Loss) จะนำมาสู่อัตราเงินเฟ้อโลกสูงขึ้นโดยเฉพาะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา อาจสร้างแรงกดดันต่อการตัดสินใจในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯได้ 

ซึ่งการรักษาระบบการค้าเสรีของโลกต้องยึดถือระเบียบการค้าโลกที่ตกลงเอาไว้ เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของทุกประเทศ หากระบบการค้าโลกไม่ขึ้นกับระเบียบ แต่ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองแบบไร้ระเบียบภายใต้ชาตินิยมทางเศรษฐกิจ ระยะยาวแล้ว จะไม่มีใครได้ประโยชน์ มีโอกาสในการเกิดความขัดแย้งทางเศรษฐกิจขยายวงกว้าง นำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ตลอดจนความขัดแย้งทางการทหารได้

จากข้อมูลขององค์การการค้าโลก (WTO) พบว่า มาตรการทางการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่การตั้งกำแพงภาษี ตั้งแต่ปี 2552-2567 มีจำนวนรวมมากกว่า 60,000 มาตรการ โดยเป็นมาตรการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า 18,000 มาตรการ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของมาตรการการค้าที่ไม่ใช่กำแพงภาษีทั้งหมด แนวโน้มในปีหน้า การกีดกันทางการค้าโดยอ้างสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงานและสิ่งแวดล้อมอาจเบาลงจากรัฐบาลสหรัฐฯในยุคโดนัล ทรัมป์

ที่ผ่านมา  มาตรการการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers, NTB) ในด้านสิ่งแวดล้อม ที่มีจำนวนมากที่สุด คือ มาตรการที่เกี่ยวข้องกับมาตรการด้านเทคนิค (Technical barrier to Trade :TBT) ที่บังคับใช้แล้ว ประเทศคู่ค้าหลักของไทย ที่มีการใช้มาตรการ NTB มากที่สุด คือ สหภาพยุโรป  อันดับสอง คือ สหรัฐอเมริกา ขณะนี้ สหรัฐฯ ยังไม่ได้นำเรื่อง NTB มาเป็นประเด็นในก่อสงครามทางการค้า แต่เราควรเตรียมรับมือประเด็นเรื่อง NTB ไว้ด้วย

ไทยจำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจให้พึ่งพาตัวเองมากขึ้น เพิ่มสัดส่วนการผลิตโดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเองมากขึ้นเมื่อเทียบกับการรับจ้างการผลิต พัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองมากขึ้น ระบบการค้าโลกจะเป็นเรื่องของการต่อรองและการตอบโต้กันไปมา มากกว่าการทำกฎระเบียบที่ตกลงกันไว้มาเป็นกรอบในการดำเนินการทางการค้า คือ จะเป็น Deal-Based มากกว่า Rule-Based มากขึ้น นโยบายเศรษฐกิจการค้าของรัฐบาลทรัมป์ 2 จะทำให้ ห่วงโซ่อุปทานโลกย้ายออกจากประเทศจีนมากยิ่งขึ้น และ ลดการพึ่งพาต่อจีนมากขึ้น

เอาการจ้างงานการผลิตสินค้ากลับมายังสหรัฐอเมริกา เพิ่มการจ้างงานในประเทศ ลดการนำเข้า ลดการขาดดุลการค้า สงครามเทคโนโลยีของสหรัฐฯในการสกัดกั้นการไล่กวดของจีน จะเพิ่มความได้เปรียบของการผูกขาด (Monopolistic Advantage) ของบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา ความได้เปรียบนี้เกิดขึ้นจากสองปัจจัย หนึ่ง เป็นเทคโนโลยีพัฒนาโดยบริษัทสหรัฐฯและได้รับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด ปิดกั้นการลอกเลียนต่อยอด ข้อสอง การกระจายสินค้าไฮเทคและการสร้างแบรนด์ที่ผู้อื่นลอกเลียนได้ยาก   

ทั้งนี้ ท่ามกลางสงครามการค้า ไทยควรวางสถานะ “อิสระอย่างมียุทธศาสตร์” การพิจารณาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรฝ่ายใดให้พิจารณาเป็นรายประเด็นด้วยกลยุทธ์ที่มีกรอบยุทธศาสตร์ผลประโยชน์แห่งชาติเป็นสำคัญ ท่ามกลางสงครามการค้า การย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่ของบรรษัทข้ามชาติครั้งใหญ่อาจเกิดขึ้น ไทยต้องช่วงชิงโอกาสจากการย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่นี้หากมีการวางยุทธศาสตร์และนโยบายเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างประเทศได้อย่างเท่าทันต่อพลวัต ไทยอาจเจอข้อเรียกร้องจำกัดปริมาณส่งออกโดยความสมัครใจ (Voluntary Export Restraints – VER) ตามยุทธศาสตร์เจรจาการค้าแบบทวิภาคีของสหรัฐฯ

การกีดกันทางการค้าและเศรษฐกิจต่อจีน จะทำให้จีนต้องหาตลาดระบายสินค้าเพื่อรักษาระดับการผลิตและการจ้างงานภายในไม่ให้เศรษฐกิจเติบโตลดลงมากเกินไป การระบายสินค้าอาจนำมาสู่พฤติกรรมทุ่มตลาดได้ โดยเราสามารถแบ่งพฤติกรรมการทุ่มตลาดออกได้เป็นสี่ลักษณะด้วยกัน คือ การทุ่มตลาดอย่างถาวร (Persistent Dumping) การทุ่มตลาดเป็นครั้งคราว (Sparodic Dumping) การทุ่มตลาดเพื่อทำลายคู่แข่ง (Predatory Dumping) และ การทุ่มตลาดเพื่อเข้าถึงตลาดใหม่ (Market Penetration Dumping)

ผู้ประกอบการไทยต้องประเมินว่า ธุรกิจอุตสาหกรรมหรือกิจการที่ท่านอยู่นั้นเผชิญภาวะการทุ่มตลาดแบบไหน การทุ่มตลาดในบางลักษณะนั้นจะอาศัยกลยุทธ์ของการกำหนดราคาสินค้าให้ต่างระดับกันระหว่างตลาดต่างๆที่อุปสงค์มีความยืดหยุ่นต่อราคาในขนาดต่างกัน (Price Discrimination) และ ตลาดทั้งหลายสามารถแยกออกจากกันได้ การเคลื่อนย้ายจากตลาดราคาต่ำไปยังราคาสูงอาจทำได้ยากขึ้นอีกหากมีการสร้างกำแพงกีดกันทางการค้าทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี

ตลาดระหว่างประเทศเป็นตลาดใหญ่ มีแหล่งผลิตจากประเทศต่างๆมาแข่งขันกัน อุปสงค์ในตลาดเช่นนี้จะมีความยืดหยุ่นมาก แต่ตลาดภายในประเทศมีขนาดเล็ก และผู้บริโภคมีทางเลือกน้อย เส้นอุปสงค์จะมีความยืดหยุ่นน้อย ทฤษฎีพฤติกรรมของผู้ผูกขาดจะบอกให้ทราบว่า ควรกำหนดราคาในตลาดต่างประเทศให้ต่ำกว่าราคาในตลาดภายในประเทศ ต้นทุนส่วนเพิ่ม (Marginal Cost) ของสินค้าผลิตในจีนนั้นต่ำมาก ฉะนั้นจึงสามารถกดราคาขายและทุ่มตลาดได้เต็มที่

“การดิ่งลงของตลาดหุ้นทั่วโลก การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำจะยังไม่จบ หากหลายประเทศใช้วิธีตอบโต้ทางการค้าเช่นเดียวกับจีนจะทำให้สถานการณ์การค้าและเศรษฐกิจโลกทรุดหนัก ปั่นป่วน ผันผวนมากกว่าเดิม ภาคส่งออกของไทยอาจติดลบได้มากกว่า 5% ย่อมทำให้ อัตราการขยายตัวของจีดีพีของไทยทั้งปีติดลบได้” รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

043...

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • บุหรี่เถื่อนลามหนัก! สมาคมโชห่วยบุหรี่ไทย เตือนบุหรี่เถื่อนทะลักอาเซียน บุหรี่เถื่อนลามหนัก! สมาคมโชห่วยบุหรี่ไทย เตือนบุหรี่เถื่อนทะลักอาเซียน
  • \'พิชัย\' นำทีมหารือรัฐมนตรีการค้าอาเซียนในเวทีเอเปค 'พิชัย' นำทีมหารือรัฐมนตรีการค้าอาเซียนในเวทีเอเปค
  • \'ธนกร\'มอง สัญญาณบวก \'สารัชถ์\'CEOพลังงานของไทยพบทรัมป์ 'ธนกร'มอง สัญญาณบวก 'สารัชถ์'CEOพลังงานของไทยพบทรัมป์
  • SINOกวาดรายได้819ล้าน รุกขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ SINOกวาดรายได้819ล้าน รุกขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ
  • ‘สหรัฐฯ-จีน’ลดภาษี115%พักรบ90วันดีต่อศก.โลก ห่วงเสถียรภาพการเมืองทำไทยเสียเปรียบเจรจา ‘สหรัฐฯ-จีน’ลดภาษี115%พักรบ90วันดีต่อศก.โลก ห่วงเสถียรภาพการเมืองทำไทยเสียเปรียบเจรจา
  • ‘อมตะ’ แนะผู้ประกอบการไทยกระจายตลาดส่งออก - ลดพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ‘อมตะ’ แนะผู้ประกอบการไทยกระจายตลาดส่งออก - ลดพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ
  •  

Breaking News

ตำรวจไซเบอร์ชี้ชัด เส้นทางเงิน‘ทิดแย้ม’ ไม่เชื่อมโยงเว็บพนัน

อ้างตาใสเจตนาดีทำเพื่อประเทศ-ชาวนา พท.โดดป้อง‘ยิงลักษณ์’ ‘ชูศักดิ์’หนุนทนายชงศาล

‘แฟนทิพย์’ ซิงเกิลเดบิวต์ละมุนหัวใจจาก ‘Cream Soung’

เจ็บสุด!'นนท์ อินทนนท์'ถูกแฟนเก่าหักหลังคบซ้อนกับคนใกล้ตัวที่ไว้ใจ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved