วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
ถอดรหัส‘มูดี้ส์’ลดเครดิตไทย ‘ดร.กอบศักดิ์’เลคเชอร์เตือนไทย อนาคตเสี่ยงโดนลด Rating

ถอดรหัส‘มูดี้ส์’ลดเครดิตไทย ‘ดร.กอบศักดิ์’เลคเชอร์เตือนไทย อนาคตเสี่ยงโดนลด Rating

วันพุธ ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568, 09.15 น.
Tag : กอบศักดิ์ภูตระกูล เครดิตไทย ถอดรหัส มูดี้ส์ Rating
  •  

ถอดรหัส‘มูดี้ส์’ลดเครดิตไทย ‘ดร.กอบศักดิ์’เลคเชอร์เตือนไทย อนาคตเสี่ยงโดนลด Rating

30 เมษายน 2568 ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” กรณีบริษัท จัดอันดับเครดิต มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (Moody's) ปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทย ลงสู่มุมมอง “เชิงลบ” (Negative) จากเดิมที่มีเสถียรภาพ (Stable) ดังนี้...


ถอดรหัส Moody’s เกี่ยวกับประเทศไทย !!!

ข่าวที่ทุกคนสนใจเมื่อคืนนี้ คงไม่พ้นการลด Outlook ของไทย

จาก Stable มาเป็น Negative

ซึ่ง Moody’s เป็นเจ้าแรกใน 3 Ratings Agencies ใหญ่ของโลก ที่เริ่มนำร่องปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับไทย ในรอบนี้

ซึ่งเป็นเรื่องที่มีนัยยะ

เพราะสำหรับ Moody’s นั้น Negative Outlook เป็นก้าวแรก ที่อาจจะนำไปสู่การลด Rating ลงได้ในอนาคต

เป็นการเตือนประเทศไทย

ส่วนอีก 2 เจ้าใหญ่ที่เหลือ คือ S&P และ Fitch Ratings การประกาศของ Moody’s จะเป็นการกระตุ้นให้อีกสองเจ้าต้องเริ่มกลับมาดูข้อมูลโดยละเอียดอีกรอบ และทบทวนว่าจะปรับเปลี่ยนมุมมองของไทยตามหรือไม่

ที่มีการปรับเปลี่ยนมุมมองหรือ Outlook ของไทย Moody’s ชี้แจงว่า มาจาก

“risks that Thailand’s economic and fiscal strength will weaken further”

ความเสี่ยงที่สถานการณ์เศรษฐกิจและสถานะภาคการคลังของไทยอาจจะอ่อนแอลงไปกว่านี้

ซึ่งมาจาก นโยบาย Tariffs ของสหรัฐที่กำลังส่งผลกระทบต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าของโลก ที่จะกระทบต่อมาที่ประเทศไทยซึ่งพึ่งพาต่างประเทศมาก

นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนว่าหลังจากชะลอไป 90 วัน ไทยและประเทศต่างๆ จะโดนเก็บภาษีนำเข้าเท่าไร

ทั้งหมดนี้ จะซ้ำเติมปัญหาเดิมที่ไทยมีก่อนหน้าอยู่แล้ว คือการที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ไม่ดีเทียบกับคนอื่นๆ หลังจบปัญหาเรื่องโควิด และปัญหาการลดลงของศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่เราโตช้าลงเรื่อยๆ

ที่ Moody’s กังวลใจก็คือ ไทยพึ่งพาตลาดสหรัฐในการส่งออก และจะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการเป็นส่วนหนึ่งของ Supply Chain ในการผลิตสินค้าของภูมิภาค

หากเศรษฐกิจไทยโตช้าลงกว่านี้อีก จากความปั่นป่วนในเศรษฐกิจโลก จะส่งผลกระทบไปที่สถานะภาคการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่ช่วงโควิด ให้แย่ลงไปจากเดิม

ดังนั้น จึงให้มุมมอง Negative กับไทย

แต่ที่น่าสนใจก็คือ

การปรับลดเป็น Negative ไม่จำเป็นต้องนำไปสู่การลด Rating เสมอไป

เป็นการเตือนว่า “จับตามองแล้วนะ” “มีความเสี่ยง”

ในอดีต ช่วงวิกฤตการเงินโลก 2008 ก็เคยลด Outlook ของไทยเป็น Negative แต่เมื่อเราผ่านช่วงวิกฤตนั้นมาได้ 2 ปีให้หลังก็ปรับมาเป็น Stable อีกครั้ง

ในรอบนี้เช่นกัน

Moody’s บอกว่า Outlook เปลี่ยนได้

ถ้าไทยสามารถขยายตัวได้สูงกว่าที่เขาคาดไว้ในใจอย่างต่อเนื่อง ที่จะช่วยให้สถานะการคลังไทยดีขึ้น

หมายความว่า ถ้าเราขาดดุลการคลังได้น้อยลง และเป็นหนี้ภาครัฐต่อ GDP ลดลง จากเศรษฐกิจที่โตต่อเนื่อง

เขาก็จะกลับไปที่ Stable ได้

ขณะเดียวกัน Moody’s เตือนว่า

Negative Outlook รอบนี้ อาจจะตามมาด้วยการลด Rating ในอนาคต ถ้าหาก

(1) เศรษฐกิจไทยอ่อนแอลงไปกว่านี้ ศักยภาพในการเติบโตลดต่ำไปกว่านี้ จากการปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้างในด้านต่างๆ รวมทั้งจาก ความปั่นป่วนในระบบเศรษฐกิจโลกจากนโยบายสหรัฐ

หรือ (2) ภาระหนี้ของภาครัฐไทยยังเพิ่มต่อเนื่องในช่วงต่อไป ทั้งจากปัญหาภายนอกและภายในที่จะเข้ามากระทบทำให้ไทยโตไม่ได้ หรือจากความตึงเครียดขัดแย้งทางการเมืองที่กระทบต่อความสามารถในการดำเนินนโยบายของไทย

ทั้งหมด เป็นการเตือน และแจ้งว่า Moody’s กังวลใจมองอะไรอยู่ และเขาอยากเห็นอะไร

หน้าที่ของเราก็คือ เร่งแก้ไข ปรับปรุงตนเอง

ซึ่งคงต้องทำ 3 เรื่อง

(1) ไม่ทำในสิ่งที่เขากังวลใจ

(2) เตรียมการให้เศรษฐกิจไทยผ่านมรสุมจาก President Trump ไปได้ พยายามลดผลกระทบที่เกิดขึ้น

(3) มุ่งสร้างอนาคตที่แท้จริง เพราะสิ่งที่ Moody’s อยากเห็นจริงๆ คือ ศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 3-4%  เป็นอย่างน้อย ซึ่งหมายความว่า เราต้องเร่งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ อย่างเป็นระบบ สร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่จะสร้างรายได้ที่แท้จริง เพิ่มศักยภาพการวิจัยของไทย แก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัยที่เป็นโซ่ถ่วงประเทศ และที่สำคัญสุดคือ แก้ไขเรื่องการพัฒนาคนของไทย

ทั้งหมดนี้ เราทำได้ ถ้าเราตั้งใจพอ  

#มุมมองดรกอบ #Moodys #Thailand

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ดร.กอบศักดิ์’เฉลยทำไม‘ทรัมป์’ต้อง10% อิทธิฤทธิ์‘กำแพงภาษี’รายได้สหรัฐพุ่ง 87.4% ‘ดร.กอบศักดิ์’เฉลยทำไม‘ทรัมป์’ต้อง10% อิทธิฤทธิ์‘กำแพงภาษี’รายได้สหรัฐพุ่ง 87.4%
  • มูดี้ส์คงเครดิตไทย  จับตาการบริหารหนี้สาธารณะ มูดี้ส์คงเครดิตไทย จับตาการบริหารหนี้สาธารณะ
  •  

Breaking News

‘2 นายอำเภอตราด’เร่งทำทะเบียนให้ผู้ที่ได้รับสัญชาติไทยตามคำสั่งมหาดไทย เผยมีเกือบ 2 พันคน

สายฝนกระหน่ำสำโรง น้ำท่วมขัง'ถนนเทพารักษ์'สมุทรปราการ

‘ยะลา’จัดพิธีสวนสนามและทบทวนคำปฏิญาณ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ

ลูกบ้านรวมกลุ่มโวย‘ผญบ.’ไม่โปร่งใส สารภาพนำเงินกองทุนฯไปใช้ทางอื่น

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved