30 เม.ย. 2568 สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI-Thai) ร่วมกับสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย มูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ซื้อบ้านจัดสัมมนาพิบัติภัยกับอสังหาริมทรัพย์ จัดงานสัมมนา “พิบัติภัยกับอสังหาฯ กรณีนานาชาติ+ทิศทางราคาห้องชุดไทย” เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สีลม กรุงเทพฯ
ในงานดังกล่าว นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) ในนามนายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 เม.ย. 2568 AREA ได้ออกเก็บตัวอย่างโครงการอาคารชุดที่มีความสูงตั้งแต่ 20 ชั้นขึ้นไปจำนวน 37 โครงการที่ยังขายอยู่ในขณะนี้ในกรุงเทพฯ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวโดยตรง เพื่อดูว่าภาวการณ์ขายในเดือน เม.ย. 2568 เป็นอย่างไรบ้าง ยังขายได้หรือไม่ โดยจำนวนรวมของหน่วยขายห้องชุดในโครงการเหล่านี้รวมกันมี 7,783 หน่วย
ผลการสำรวจพบว่า มีหน่วยขายที่ขายได้เฉพาะในเดือนเมษายนจำนวน 77 หน่วยจากทั้งหมด 7,783 หน่วย ซึ่งหากสำรวจครบทั้ง 30 วันของเดือน เม.ย. 2568 และหากไม่คิดว่าเดือนดังกล่าวมีวันหยุดเป็นจำนวนมาก ก็อาจอนุมานได้ว่าหน่วยที่ขายได้ในเดือนเดียวนี้น่าจะมีประมาณ 100 หน่วย หรือประมาณ 1.3% ของอุปทานทั้งหมด ในขณะที่ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 ห้องชุดของโครงการ 37 แห่งดังกล่าว ขายได้ 397 หน่วย หรือ 4.9% ของทั้งหมด หรือเฉลี่ยเดือนละ 1.6% ของทั้งหมด
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า แม้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นก็ไม่ทำให้ยอดขายต่อเดือนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (1.3% เทียบกับ 1.6%) โดยห้องชุดที่ขายได้ในเดือน เม.ย. 2568 นั้น เป็นห้องชุดประเภทดังนี้ 1.ในกรณีระดับราคา พบว่า กลุ่มใหญ่ที่สุดคือราคา 5-10 ล้านบาทต่อหน่วย (44%) ราคา 3-5 ล้านต่อหน่วย (27%) โดย 2 กลุ่มนี้รวมกันถึง 71% 2.ในกรณีราคาต่อตารางเมตร พบว่า กลุ่มใหญ่ที่สุดคือราคา 150,001 – 200,000 บาทต่อตารางเมตร (38%) และห้องชุดราคา 100,001 - 150,000 บาทต่อตารางเมตร (30%) โดย 2 กลุ่มนี้รวมกันถึง 68%
3.ในกรณีจำนวนห้องนอน พบว่า กลุ่มใหญ่ที่สุดคือห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน (32%) และห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน (23%) โดย 2 กลุ่มนี้รวมกันถึง 55% 4.ในกรณีขนาดตารางเมตรของห้องชุด พบว่า กลุ่มใหญ่ที่สุดคือห้องชุดที่มีขนาด 31-40 ตารางเมตร (44%) และห้องชุดขนาด 41-50 ตารางเมตร (16%) โดย 2 กลุ่มนี้รวมกันถึง 60% ดังนั้นการสรุปผลการสำรวจพบว่า
1.หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ผู้มีความประสงค์จะซื้อคอนโดมิเนียมมีท่าทีระมัดระวังและชะลอการตัดสินใจ 2.เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ความเชื่อมั่นได้ทยอยกลับคืนสู่ภาวะปกติ เริ่มมีการเข้าชมโครงการที่เพิ่มขึ้นแต่ยังชะลอการซื้อ รวมถึงยอดขายและราคาขายยังทรงตัวไม่ปรับเปลี่ยนมากนัก
3.ระดับราคาขายส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับราคาลดลง ราคายังคงทรงๆ แต่จะเสนอเงื่อนไขการดูแลห้องหลังการขายให้ลูกค้ามากขึ้น และมีลูกค้าบางกลุ่มที่ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าจะมีโปรโมชั่นพิเศษหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว 4.โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและยังเปิดขายอยู่ ที่ได้รับผลกระทบช่วงนี้จะอยู่ในระหว่างการปิดซ่อมแซมภายใน และทยอยเปิดเข้าชมภายในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ลูกบ้านยังคงอาศัยได้ตามปกติ
5.โครงการที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ลูกค้าไม่สามารถเข้าพักได้ ทางโครงการรับผิดชอบ โดยซ่อมแซมห้องชุดให้ และให้ค่าที่พัก airbnb จำนวน 20,000 คอยน์ ภายในระยะเวลา 1 เดือน 6.โครงการที่อยู่ในระหว่างก่อสร้าง จะได้รับผลกระทบน้อย ยังสามารถขายได้ตามปกติแต่ยอดขายอาจจะลดลงประมาณ 50% จากก่อนเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากผู้ซื้อส่วนหนึ่งยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการพักอาศัยในอาคารสูง
7.ชาวต่างชาติยังให้ความสนใจซื้อห้องชุดใน Prime Area แต่จะเลือกพิจารณาในโครงการที่มีระบบโครงสร้างที่มั่นคงแข็งแรง มีการออกแบบรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ดี 8.โครงการ High-rise โดยรวมจะได้รับผลกระทบด้านความรู้สึกสำหรับบางกลุ่ม แต่ยูนิตในชั้นล่างๆ กลับได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้โครงการที่ยังมีห้องว่างในชั้นล่างมีโอกาสขายได้เพิ่มขึ้น
9.โครงการส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบในระดับปานกลางถึงสูงในบางชั้น หากได้รับผลกระทบสูง จะหยุดให้เยี่ยมชมห้องตัวอย่าง จะอยู่ในช่วงรีโนเวท แต่ยังเปิดขายอยู่ปกติ 10.โครงการที่มีลูกค้าขอคืนห้องและไม่ส่งดาวน์ต่อมีค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะแค่จองไว้ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แต่ยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายจึงยกเลิก
ส่วนทิศทางในอนาคตนั้น AREA มองว่า 1.ความนิยมโครงการ Low-rise เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงโครงการ High-rise ชั้นล่างจะได้รับความสนใจมากขึ้น 2.โครงการ Low-rise จะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน 3.ผู้ซื้อจะเน้น "ความปลอดภัย" และ "ความแข็งแรงของโครงสร้าง" เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อ 4.ผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการแล้วเสร็จ และโครงการส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบน้อย มีความแข็งแรงในเรื่องของโครงสร้างอาคารจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อได้มากขึ้น
5.บริการหลังการขาย รวมถึงการดูแลแก้ปัญหาให้ลูกบ้านที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จะได้รับความนิคมจากลูกค้ามากขึ้น มีการบอกต่อ 6.แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคสะท้อนการให้ความสำคัญกับอาคารที่มีความเสี่ยงต่ำ และการตัดสินใจซื้อที่รอบคอบยิ่งขึ้นในภาวะที่มีเหตุการณ์ไม่แน่นอน 7.การประชาสัมพันธ์และโฆษณาจะเปลี่ยนจากเดิม โดยเน้นเรื่องโครงสร้างอาคาร วัสดุก่อสร้างที่มีความแข็งแรง มีมาตรฐานการทนแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้
8.คนที่มีกำลังซื้อส่วนหนึ่งจะมองหาที่อยู่อาศัยแนวราบแทนอาคารชุด ทำให้ยอดขายบ้านแนวราบเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 2/68 9.นักลงทุนชะลอการลงทุนในอาคารชุดในระยะหนึ่งแต่คงไม่เกินสิ้นปีนี้ 10.คาดการว่าประมาณ 1-2 ปี กลุ่มผู้ซื้อจะกลับมาสู่ภาวะปกติ เนื่องจากจำเป็นต้องทำงานหรืออยู่อาศัยในเขตเมืองชั้นในหรือชั้นกลาง จึงต้องอาศัยอยู่ในอาคารชุดเป็นสำคัญ
“ในระหว่างนี้ บริษัทพัฒนาที่ดินพึงดูแลผู้ซื้อห้องชุดให้ดีที่สุด เพื่อแสดงความรับผิดชอบและเป็นโอกาสในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต” นายโสภณ กล่าว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.9 ซึ่งเป็นภัยพิบัติครั้งร้ายแรงในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 แรงสั่นสะเทือนสัมผัสได้ถึงกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทยทั้งที่อยู่ห่างไกลจากเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมา ส่งผลให้ในวันดังกล่าวผู้คนแตกตื่นวิ่งออกมาจากอาคารสูง และยังมีเหตุอาคารสูงแห่งหนึ่งที่กำลังก่อสร้างอยู่พังถล่มลงมา ในเวลานั้นจึงมีความกังวลว่าที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุด อาคารชุดหรือคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป รวมถึงมีการพูดคุยกับในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ว่าหลายคนเริ่มคิดขายห้องชุดที่ครอบครองอยู่แล้ว
หมายเหตุ : สามารถดูข้อมูลโครงการที่ทีมงาน AREA ออกสำรวจได้ที่นี่ https://www.area.co.th/t/8848
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี