นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง โดยกรมฯ มีชุดปฏิบัติการออกทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. และตัวแทนเจ้าของสิทธิงานทรัพย์สินทางปัญญาในการลงพื้นที่ปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่เป้าหมายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานมาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามการหารือกับ บก.ปอศ. ครั้งนี้เป็นการทบทวนมาตรการและแผนปฏิบัติการเร่งด่วนที่กรมฯ และ บก.ปอศ. ร่วมกันลงนาม เพื่อกำหนดพื้นที่ในการร่วมปฏิบัติงานในการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สิน ทางปัญญา และการลดจำนวนสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่เป้าหมายสำคัญ รวมทั้งพื้นที่ที่ถูกจับตามมองเป็นพิเศษจากเจ้าของสิทธิในงานทรัพย์สินทางปัญญาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเพิ่มความเข้มข้นใน การลงพื้นที่ปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กับผู้กระทำความผิด เพื่อลดปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกันนอกจากการทบทวนมาตรการดังกล่าวแล้ว กรมฯ และ บก ปอศ. ได้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ และตัวแทนเจ้าของสิทธิงานทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อลงพื้นที่เป้าหมายสำคัญซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ การลงพื้นที่จะเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น รวมทั้งจะบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ กับผู้จำหน่ายสินค้าละเมิด เพื่อลดปัญหาการจำหน่ายสินค้าละเมิดในพื้นที่ดังกล่าว โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา มีความมุงมั่นที่จะปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที เพื่อไม่ให้สินค้าเหล่านี้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศไทยอีกด้วย หากประชาชน พบเห็นการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสผ่านทางเว็บไซต์ www.ipthailand.go.th หัวข้อ “แจ้งเบาะแสการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา” หรือ โทรสายด่วน 1368

- 030