ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลต่อผู้ประกอบการในการดำเนินกิจการและการลงทุนในพื้นที่ ดังนั้น และเพื่อให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาตใต้และพื้นที่ใกล้เคียง ได้รับความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับปรุงเงื่อนไขพร้อมต่ออายุโครงการซอฟท์โลนภาคใต้ที่จะสิ้นสุดโครงการในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ออกไปจนถึงสิ้นปี 2570
อย่างไรก็ตามโดยในการดำเนินโครงการซอฟท์โลนภาคใต้ ธนาคารออมสินได้เตรียมวงเงิน 15,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยซอฟท์โลนให้สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีทั้งธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ในอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปีเพื่อให้นำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) รวมถึง4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (เทพา จะนะ นาทวี และสะบ้าย้อย) ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งผู้ที่สามารถขอสินเชื่อประกอบด้วยผู้ประกอบการรายเดิมที่เคยได้รับสินเชื่อจากโครงการก่อนหน้านี้และผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องหรือเงินลงทุนเพื่อขยายกิจการ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาท
รมช.คลัง ได้เน้นย้ำว่า รัฐบาลมีความห่วงใยกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น และยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ให้มีเงินทุนเพียงพอสำหรับฟื้นฟูกิจการให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจด้วยต้นทุนต่ำ ช่วยแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงทำให้เกิดความมั่นใจในการประกอบกิจการและมีการลงทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ต่อขยายตัวทางการเงินการลงทุน และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี