นายปนายุ ศิริกระจ่างศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN ผู้นำด้าน Intelligent Digital Platform เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 8.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171% จากไตรมาส 4 ของปีก่อน และพลิกกลับมามีกำไร หลังสามารถกลับมารับรู้รายได้จากโครงการพัฒนาระบบดิจิทัลขนาดใหญ่ได้ตามแผน ขณะที่  มีรายได้จากการให้บริการรวม 97.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ 48% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยเฉพาะรายได้ในกลุ่มงานพัฒนาระบบดิจิทัลและงานให้บริการคำปรึกษาที่ 39.23 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% YoY และ 243% QoQ จากการทยอยรับรู้รายได้โครงการใหญ่ที่เลื่อนจากไตรมาส 4/2567 เนื่องจากปัญหาการตกลงขอบเขตงานกับลูกค้า ซึ่งในไตรมาสนี้สามารถกลับมาดำเนินงานได้ตามแผน

ขณะที่ รายได้จากกลุ่มบำรุงรักษาระบบและสนับสนุนด้านเทคโนโลยีมีรายได้อยู่ที่ 51.46 ล้านบาท ลดลง 7% YoY เนื่องจากรายได้จากบริการ Cloud Billing ลดลง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีมาร์จิ้นต่ำ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มโดยรวมปรับตัวดีขึ้นเป็น 40% จาก 29% ในปีก่อนหน้า และมีรายได้งานอื่นๆ อยู่ที่ 6.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.63 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการขยายทีมขายและการปรับค่าตอบแทนพนักงานประจำปี แต่ SG&A ต่อยอดขายลดลงจาก 27% ในไตรมาส 4/67 เหลือ 19% จากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 TBN มีงานในมือ (Backlog) รวมทั้งสิ้น 363.26 ล้านบาท แบ่งเป็นงานพัฒนาระบบดิจิทัลและที่ปรึกษา 83.82 ล้านบาท, งานบำรุงรักษาระบบและสนับสนุนเทคโนโลยี 260.24 ล้านบาท และงานอื่น ๆ อีก 19.20 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตามแผนดำเนินโครงการ โดยจะรับรู้รายได้ปีนี้ราว 201.33 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 161.93 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปีถัดไป 

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตราว 30-35% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 349.30 ล้านบาท โดยเบื้องต้นบริษัทประเมินว่ามีรายได้ประจำ (Recurring Income) แล้วกว่า 200 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ที่เป็น Recurring Income เพิ่มขึ้นแตะที่ 60% ของรายได้รวม เทียบกับปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่กว่า 50%  ซึ่งมาจากการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มโรงพยาบาลและพลังงาน รวมถึงงานจากภาครัฐที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และมุ่งหวังงานโครงการขนาดใหญ่ที่เลื่อนรับรู้จากปีก่อนจะทยอยรับรู้แล้วเสร็จภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทยังเน้นงานภาครัฐเพิ่มขึ้น พร้อมกับการเพิ่มความเข้มงวดในการบริหารโครงการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากต้นทุนส่วนเกินที่อาจไม่สามารถเรียกเก็บคืนได้ในอนาคต

โดยกลยุทธ์การเติบโตในปี 2568 บริษัทเตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์และการบริการ โซลูชัน AI ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถนำ AI ไปใช้ในหลายๆส่วนในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการบริหารความรู้ (knowledge management) การใช้ AI ในการปฏิบัติงาน (Agentic AI) รวมถึงการสื่อสาร AI communications platform นอกจากนั้น TBN ยังมีโซลูชันด้าน Cybersecurity สำหรับองค์กรขนาดใหญ่และ Mobile Application security เพื่อช่วยให้ลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และรับมือกับความท้าทายเชิงดิจิทัลในอนาคต

“TBN ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยให้องค์กรไทยก้าวสู่อนาคตได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมสร้างความแข็งแกร่งและความยั่งยืนในระยะยาว ด้วย Intelligent Digital Solutions Platform ต่างๆไม่ว่าจะเป็น AI Driven Mendix Low-Code, Generative AI, AI Communications Platform รวมถึง Cybersecurity เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่” นายปนายุกล่าว

- 030