16 พ.ค. 2568 สำนักข่าว VnExpress International ของเวียดนาม เสนอรายงานพิเศษ Why Thailand is winning China’s favor in durian export race เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2568 ชี้ปัจจัยที่ทำให้ทุเรียนจากประเทศไทยได้รับการยอมรับจากประเทศจีนจนสามารถส่งเข้าไปขายได้ ในขณะที่การส่งออกทุเรียนของเวียดนามไปจีนยังต้องดิ้นรนอย่างมาก โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 มูลค่าการส่งออกทุเรียนไปจีนของไทยอยู่ที่ 287 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 9.7 พันล้านบาท) มากกว่าเวียดนามที่ทำได้ 130 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.4 พัรล้านบาท)
สื่อเวียดนามกล่าวถึงปัจจัยข้อแรกอย่างความพยายามควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดของไทย โดยเมื่อเดือน ม.ค. 2568 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย ประกาศนโยบาย “4 ไม่ (4 No)” ได้แก่ 1.ไม่อ่อน (no immature fruits) 2.ไม่หนอน (no pests) 3.ไม่สวมสิทธิ์ (no fakes) และ 4.ไม่ใช้สี – ไม่มีสารเคมีต้องห้าม (no dyes or substances) ซึ่งนโยบายนี้อ้างถึงมาตรฐานใหม่ของจีนเกี่ยวกับสารต้องห้าม รวมถึง Basic Yellow 2 ซึ่งเป็นสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ หลังจากนั้น โรงงานบรรจุภัณฑ์ของไทยจะถูกตรวจสอบและฆ่าเชื้ออย่างเข้มงวด ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตทันที
“ห้องปฏิบัติการทดสอบเกือบ 300 แห่งถูกส่งไปตรวจสอบความปลอดภัย จากนั้นผลไม้จะผ่านการตรวจสอบครั้งที่ 2 ที่ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองจากศุลกากรจีนก่อนส่งออก ภายในวันที่ 10 เม.ย. 2568 ศูนย์ทดสอบในประเทศไทยได้รับการอนุมัติให้ทำการทดสอบ Basic Yellow 2 จากศุลกากรจีน ซึ่งช่วยเร่งกระบวนการตรวจในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวของประเทศไทย” รายงานของสื่อเวียดนาม ระบุ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า อีกปัจจัยที่สำคัญ รัฐบาลไทยได้ริเริ่มการเจรจากับจีนเพื่อยกระดับความน่าดึงดูดใจของผลไม้ซึ่งยังมีราคาแพง โดยเมื่อเดือน ก.พ. 2568 ซึ่ง แพทองธาร ชินวัตร (Paetongtarn Shinawatra) นายกรัฐมนตรีของไทย เดินทางเยือนจีน ในครั้งนั้น นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (Narumon Pinyosinwat) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย ได้ร่วมคณะไปด้วยเพื่อหาทางส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตร ซึ่งรวมถึงทุเรียน และการเดินทางดังกล่าวได้รับการยอมรับว่าเป็นกุญแจสำคัญในการได้รับการรับรองและสนับสนุนจากกรมศุลกากรจีน
นอกจากนั้น ไทยยังได้เพิ่มการส่งออกไปยังจีนผ่านด่านชายแดนของเวียดนาม โดยในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน เม.ย. 2568 มีการขนส่งทุเรียนไทยจำนวน 6 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนัก 96 ตัน ผ่านจังหวัด Cao Bang ของเวียดนาม ไปยังเขตปกครองตนเองกวางซีของจีน ซึ่งเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสำหรับสินค้าไทยที่จะเข้าสู่จีนและช่วยลดต้นทุนและเวลาในการขนส่ง ศุลกากรจีนยังได้จัดช่องทางพิเศษเฉพาะที่ด่าน ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งของไทย ปัจจุบันมีด่านชายแดน 6 แห่งในกวางสีเพื่อตรวจปล่อยผลไม้ไทย
Dang Phuc Nguyen เลขาธิการสมาคมผักและผลไม้เวียดนาม กล่าวว่า ประเทศไทยส่งทุเรียนประมาณ 500 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อวัน (10,000 ตัน) ผ่านด่านชายแดนของจีน ซึ่งมีจำนวนน้อยที่ถูกปฏิเสธ โดยไทยนั้นควบคุมคุณภาพทุเรียนอย่างเข้มงวดตั้งแต่ฟาร์มจนถึงโรงงานแปรรูป ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากทางจีนถึงขั้นกล้าเปิดช่องทางพิเศษให้ ในทางกลับกัน เวียดนามประสบปัญหาสารเคมีตกค้าง ทำให้ต้องมีการเตือนทางเทคนิคบ่อยครั้งและเกิดความล่าช้าในการอนุมัติ และความพยายามในการเพิ่มการตรวจสอบย้อนกลับนั้นไม่เพียงพอ
ปัจจัยประการที่สาม คือการประสานงานระหว่างกระทรวงของไทย โดย Nguyen กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สรุปข้อตกลงทางเทคนิคแล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้จัดงานมหกรรมและการขายออนไลน์โดยมีดาราดังชาวจีนเข้าร่วมเพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค พร้อมกับเตือนว่า ฤดูทุเรียนของเวียดนามใกล้เข้ามาแล้ว หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง เวียดนามจะยิ่งสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับไทยมากขึ้น
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ Do Duc Duy รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสิ่งแวดล้อมของเวียดนาม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทำงานร่วมกับศุลกากรจีนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเทคนิค พร้อมเรียกร้องให้มีการให้ความสำคัญกับการออกกฎหมายฟาร์ม การอนุมัติสถานที่บรรจุหีบห่อ และการรับรองห้องแล็บเพื่อทดสอบคุณภาพของทุเรียน และอีกไม่นานนี้จะมีการออกพิธีสารสุขอนามัยพืชเฉพาะทุเรียน เพื่อประเมินศักยภาพในการส่งออกและปรับปรุงกลยุทธ์
ในระยะยาว Duy เรียกร้องให้มีกฎหมายการส่งออกสินค้าเกษตรที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับกฎหมายฟาร์ม สถานที่บรรจุหีบห่อ การทดสอบ และการตรวจสอบ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายที่จะทำให้กระบวนการทางเทคนิคเป็นมาตรฐาน ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมทุเรียน และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น ทุเรียนแช่แข็ง เพื่อลดการพึ่งพาตลาดผลไม้สด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างร่างแนวทางปฏิบัติสำหรับกฎหมายฟาร์มและสถานที่บรรจุหีบห่อ และจัดทำโปรแกรมคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับการส่งออกทุเรียน
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี