นางสาวเกรซี่ เฉิน (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการของ บิตเก็ต (Bitget) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีและบริษัท Web3 ชั้นนำของโลก กล่าวว่าหลังจากที่ราคาบิทคอยน์กลับมายืนเหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์ พบว่าปัจจัยบวกที่หนุนราคายังคงมีต่อเนื่องโดยปัจจัยหลักมาจากการเจรจาเรื่องภาษีตอบโต้ระหว่างสหรัฐฯและชาติอื่นๆโดยเฉพาะจีนมีทิศทางในเชิงบวกมากขึ้นรวมถึงแรงซื้อจากกองทุน Bitcoin ETF ยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงต้องจับตาต่อไปคือการเจรจาเรื่องของภาษีตอบโต้ที่อาจจะมีผลในเชิงลบออกมานโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯที่ยังไม่ส่งสัญญาณที่จะลดดอกเบี้ยลงตลอดจนสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้กับตลาด ถึงอย่างไรมองว่าบิทคอยน์ได้ประโยชน์ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค
“ถ้าหากนักลงทุนสถาบันมีการปรับพอร์ตลดการลงทุนในตลาดหุ้น คาดว่าเม็ดเงินบางส่วนจะไหลมาลงทุนในบิทคอยน์ซึ่งจะผลักดันให้ราคาพุ่งแตะระดับ 120,000 ดอลลาร์ ในไตรมาสสองนี้ โดยปัจจัยลบที่ทำให้ราคามีความผันผวนคือการเปลี่ยนแปลงในเชิงกฎหมายและนโยบายกำกับดูแลคริปโทที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของฝั่งการเมือง” นางสาวเกรซี่ เฉิน กล่าว
ขณะที่อีกปัจจัยที่ต้องจับตาคือการเข้ามาในอุตสาหกรรมคริปโทของคนในตระกูลทรัมป์อย่างล่าสุดที่ลูกชายอย่างอีริค ทรัมป์ ได้เข้ามาในวงการขุดบิทคอยน์และก่อนหน้านี้คนของตระกูลทรัมป์ได้ลงทุนในโปรเจกต์ด้าน DeFi อย่าง World Financial Liberty ส่วนตัวมองว่าเป็นดาบสองคมที่มีทั้งปัจจัยบวกและลบ
“ด้านบวก ยอมรับว่าการที่มีคนของตระกูลทรัมป์เข้ามาอาจช่วยผลักดันให้คนทั่วไปรู้จักคริปโทมากขึ้น แต่ด้านลบคือความท้าทายด้านกฎระเบียบและภาพลักษณ์ เนื่องจากบทบาททางการเมืองของครอบครัวทรัมป์รวมถึงประวัติความขัดแย้งในอดีต จะทำให้นักลงทุน นักการเมือง และหน่วยงานกำกับดูแลเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดอย่างไรก็ตาม หากโครงการดำเนินไปได้ดี ก็อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับธุรกิจขุดบิทคอยน์ในสหรัฐฯ และช่วยเสริมบทบาทของคริปโทในระบบการเงินของอเมริกา” นางสาวเกรซี่ เฉิน กล่าว
นายไรอัน ลี (Ryan Lee ) หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ Bitget Research กล่าวว่าราคาหุ้นในกลุ่มคริปโทปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้โดยเฉพาะ Coinbase ที่พุ่งขึ้นถึง 16% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่กลับมาอีกครั้งของนักลงทุน หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนเมษายนชะลอลงเหลือ 2.3% ความชะลอตัวของเงินเฟ้อสร้างความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯอาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงมีแนวโน้มเป็นบวก
หากตลาดหุ้นยังคงเป็นขาขึ้นต่อไป อาจมีเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยไหลเข้าสู่ตลาดคริปโทมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและหนุนเหรียญทางเลือก (altcoins) บางเหรียญให้เติบโตได้ ในภาพรวมถือว่าตลาดเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น แต่ยังคงต้องใช้ความระมัดระวังการลงทุนเช่นเดิม
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี