**บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์นี้ (19-23 พ.ค. 68)…โดยระบุว่า...ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หลังสหรัฐฯ และจีน สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันที่จะลดกำแพงภาษีเป็นระยะเวลา 90 วัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.68 เป็นต้นไป ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรกว่า 20 บริษัท ที่ถูกกล่าวหาว่าทำงานร่วมกับอิหร่าน นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรปคาดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.5% ภายในปี 2568 อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังคงไม่มีแผนปรับลดดอกเบี้ย จนกว่าจะเห็นทิศทางเงินเฟ้อและนโยบายการค้าของประเทศชัดเจนขึ้น ขณะที่กำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคพลัสคาดจะปรับเพิ่มขึ้น 0.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน มิ.ย. 68…ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 58-68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 61-71 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…** ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เดือน ม.ค.-มี.ค. 2568 อยู่ที่ 158.67 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 1.3 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 15.1% เนื่องจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริการ และการใช้ LPG เพิ่มขึ้น 0.3% การใช้น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 0.9 % ขณะที่กลุ่มเบนซินลดลง 0.4% น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการลดลง 1.5% และ NGV ลดลง 15.1%...** ผู้รับสมัครตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย( กฟผ.) คนใหม่ที่จะเข้าแทน นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. คนปัจจุบัน ที่จะครบวาระในวันที่ 30 ก.ค. 2568...มีผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น 6 คน ได้แก่ 1.นายทิเดช เอี่ยมสาย รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน 2.นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ปฏิบัติงานที่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ 3.นายวิภู พิวัฒน์ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 4.นายธวัชชัย สำราญวานิช รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ 5.นายธีรวุฒิ เวทะธรรม รองผู้ว่าการพัฒนาระบบส่ง 6.นายนรินทร์ เผ่าวณิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง…สำหรับโจทย์ท้าทายผู้ว่า กฟผ. คนใหม่ มีเรื่องที่สำคัญ ได้แก่ การส่งสัญญาณให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) รับทราบหนี้คงค้างค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ที่จะกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของ กฟผ. ,การเสนอรัฐบาลถึงการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของไทย (PDP) ฉบับใหม่ ที่ควรต้องเน้นโรงไฟฟ้าหลักเพื่อความมั่นคงด้านไฟฟ้าของประเทศหากมีการเพิ่มสัดส่วนไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน (RE) เข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยโรงไฟฟ้าหลัก ได้แก่ โรงไฟฟ้าสุราษฏร์ธานี, โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR), การแยกศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า (SO) และการแยกบัญชีให้ชัดเจน ฯลฯ...** บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM แจ้งว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2568...กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ เพิ่มขึ้น 51.6% สู่ระดับ 749 ล้านบาท และ EBITDA 3,725 ล้านบาท เติบโต 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิ – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 654 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 379 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. การรวมผลประกอบการของ Malacha ในประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากเข้าซื้อกิจการ 100% ในเดือน พ.ค. 2567, 2. ปริมาณไอน้ำที่ขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (IUs) ในประเทศเพิ่มขึ้น 8.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน, 3. ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ดีขึ้น, 4. การลดลงของราคาก๊าซธรรมชาติ และ 5. กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ที่เกิดขึ้นจริง...นอกจากนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ได้มีการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้า IUs รายใหม่ในประเทศไทย จำนวน 6.9 เมกะวัตต์ จากกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน กลุ่มยางรถยนต์ กลุ่มเคมีภัณฑ์ เป็นต้น รวมถึง บี.กริม แอลเอ็นจี นำเข้า LNG จำนวน 2 ลำ ในเดือนมี.ค.และเม.ย. รวมประมาณ 130,000 ตัน เข้าสู่ระบบ Pool Gas เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมของ บี.กริม เพาเวอร์…** บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE….หลังจากที่มีการปรับโครงสร้างทางธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมการบริหารงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และผลการดำเนินงานของ AGE ที่มีการฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2567 ที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาถึงไตรมาส1/2568…โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2568 มีกำไรสุทธิ (ส่วนของบริษัทใหญ่) 42.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137.7% และมีรายได้รวมจากการขายและบริการ 3,589 ล้านบาท ลดลง 10.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา...สำหรับสัดส่วนรายได้ใน 4 กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ มีการปรับตัวในทิศทางที่เพิ่มขึ้น โดย 1. ธุรกิจถ่านหิน ในไตรมาส 1/2568 มีรายได้ 2,403 ล้านบาท ลดลง 25% (YoY) โดยมีปริมาณการขายถ่านหิน 0.84 ล้านตัน...2. ธุรกิจโลจิสติกส์ ไตรมาส 1/2568 มีรายได้ 173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6% (YoY) จากการขยายฐานลูกค้าภายนอกทั้งจากกลุ่มสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมตามเป้าหมายที่วางไว้…3. ธุรกิจพลังงานยั่งยืน (Sustainable Energy) จากการเข้าไปลงทุนใน บมจ. เอเชีย ไบโอแมส หรือ ABM ซึ่งกลายเป็น flagship ทางด้านพลังงานยั่งยืนของกลุ่มบริษัทฯ ในส่วนไตรมาส 1/2568 มีรายได้ 537 ล้านบาท ลดลง 18.1% (YoY) 4. ธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) โดยล่าสุด บริษัท เอจีอี เวนเจอร์ส จำกัด ได้มีการลงนามในสัญญาก่อสร้างโชว์รูมรถยนต์ ร่วมกับ บริษัท เพาวเวอร์ดาต้า จำกัด ในนาม บริษัท เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่ จำกัด หรือ AAG โดยมีโครงการก่อสร้างที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ Zeekr House พระราม2, Zeekr House รามอินทรา, Omoda&Jaecoo บางนา และมีแผนปรับปรุงโชว์รูม Mitsubish สาขารามอินทรา เพื่อรองรับการเยี่ยมชม และการให้บริการหลังการขายอย่างครบวงจร ส่วนการปล่อยเช่า Taxi EV ในปัจจุบันมีการปล่อยเช่ารวม 50 คัน และมีแผนการปล่อยเช่าเพิ่มเติม ส่งผลให้ไตรมาส 1/2568 มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าว 476 ล้านบาท…**
** กระบองเพชร**
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี