วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
กลุ่มมโนธรรมรักษา ปักหมุดสร้างอาณาจักรทำเลทอง ภูเก็ต

กลุ่มมโนธรรมรักษา ปักหมุดสร้างอาณาจักรทำเลทอง ภูเก็ต

วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 08.35 น.
Tag : กลุ่มมโนธรรมรักษา อสังหาริมทรัพย์ ภูเก็ต
  •  

นายวีระวิทย์ มโนธรรมรักษา รองประธาน บริษัท บีสตาร์ท เฮฟเว่น จำกัด เปิดเผย ถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดภูเก็ต ว่า จากข้อมูลของ แผนกวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส (ประเทศไทย)จำกัด พบว่าในช่วงไตรมาสที่ 1/2568 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ภูเก็ต มีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศเปิดขายใหม่มากกว่า 45 โครงการ ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมมากกว่า 49,160 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2568 ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียม ในจังหวัดภูเก็ตจะยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง แต่อุปทานเปิดขายใหม่อาจปรับตัวลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 8,000 -10,000 ยูนิต เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีอุปทานเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดมากกว่า 20,000 ยูนิต ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง โดยทำเลย่านในทอน ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยพบว่าในช่วงก่อนหน้ามีโครงการบ้านพักตากอากาศระดับลักชัวรี่เปิดขายที่ระดับราคาขายมากกว่า 100 ล้านบาทต่อยูนิต

อย่างไรก็ตามปัจจุบันอุปทานเหล่านี้ถูกซื้อขายจากกลุ่มกำลังซื้อระดับบนเป็นที่เรียบร้อยทุกยูนิต และทำเลแห่งนี้กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในกลุ่มของคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศ โดยเฉพาะจากกลุ่มนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มองเห็นศักยภาพของพื้นที่ชายฝั่งที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติและไม่หนาแน่นจนเกินไป หนึ่งในจุดเด่นของย่านในทอนคือ ยังไม่มีการแข่งขันด้านอสังหาฯสูงมากนัก โดยพบว่าปัจจุบันในพื้นที่ย่านในทอนมีอุปทานคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายเพียงแค่ 2 โครงการ 820 ยูนิตเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ร้อยละ 2.18 ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมดในตลาด และสำหรับบ้านพักตากอากาศพบว่า ปัจจุบันมีอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายเพียงแค่ 6 โครงการ 113 ยูนิตเท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ร้อยละ 2.75 ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมดในตลาด ซึ่งถือว่าน้อยเป็นอย่างมาก ทำให้ตลาดในพื้นที่นี้มีความน่าสนใจในด้านโอกาสการเติบโตในอนาคต รวมถึงความเป็นไปได้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งในระยะกลางและระยะยาว


อีกทั้งย่านในทอนยังมีความได้เปรียบในเรื่องของสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ เป็นธรรมชาติ และเหมาะกับการอยู่อาศัยแบบพักผ่อนหรือการพัฒนาเป็นรีสอร์ตระดับพรีเมียม ใกล้กับสนามบินนานาชาติภูเก็ตและอยู่ไม่ไกลจากแหล่งอำนวยความสะดวกสำคัญเช่น สนามกอล์ฟหรู โรงแรมระดับห้าดาว และร้านอาหารชั้นนำ จากแนวโน้มดังกล่าว ย่านในทอนจึงถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็น "ดาวรุ่ง" ดวงใหม่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ที่สามารถดึงดูดทั้งกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการปล่อยเช่าหรือเพิ่มมูลค่าในอนาคต

สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศในย่านในทอน ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนต่างชาติที่มองหาที่อยู่อาศัยหรือบ้านพักตากอากาศในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มชาวรัสเซียที่หนีภัยสงครามเข้ามาหาซื้อพูลวิลล่าในภูเก็ต นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนจากยุโรป สแกนดิเนียเวีย รัสเซีย จีน และอินเดียที่สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการซื้อเป็นบ้านหลังที่สองหรือที่อยู่อาศัยระยะยาว ซึ่งการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบLeasehold (เช่าระยะยาว 30 ปี) เป็นที่นิยมในกลุ่มนี้

ส่วนกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่ซื้อคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศในย่านในทอน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการที่อยู่อาศัยที่มีความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย บางรายอาจซื้อเพื่อการลงทุนหรือปล่อยเช่าในระยะยาว โดยรวมแล้ว ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในย่านในทอนยังคงมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากทำเลที่ตั้งที่เงียบสงบและมีศักยภาพในการพัฒนาในอนาคต ส่วนราคาที่ดินย่านในทอน พบว่าที่ดินพื้นที่เชิงเขา ที่ดินมีราคาเสนอขายอยู่ที่ประมาณ 15-30 ล้านบาทต่อไร่ สำหรับที่ดินใกล้ชายหาดจะมีราคาเสนอขายอยู่ที่ประมาณ 25-50 ล้านบาทต่อไร่

นายวีระวิทย์ กล่าวว่า  แม้ปัจจุบันตลาดอสังหาฯภูเก็ตจะมีการแข่งขันที่ดุเดือด จากการที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดกันมาก แต่ตนมองว่าไม่มีผลกระทบ เพราะทางคุณพ่อของตน คือ “นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา” ได้เห็นศักยภาพ และมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล จึงได้เข้ามาซื้อที่ดินย่านหาดในทอน เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา โดยมีทั้งที่ดินที่ซื้อเองและเช่าระยะยาว 30 ปี + 30 ปี จนถึงปัจจุบันมีรวมทั้งสิ้นประมาณ 80 ไร่ ทั้งนี้เพื่อเก็บเป็น ASSET PROPERTY ของครอบครัว ถือว่าเป็นแลนด์ลอร์ดที่ถือครองที่ดินมากที่สุดในย่านหาดในทอน และเริ่มพัฒนาโครงการมาตั้งแต่ปี 2562 ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐีรัสซีย และการได้รับการยอมรับจากเอเยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในภูเก็ต เพราะหลักการทำงานเอเยนต์ในภูเก็ต จะไม่สนใจในแบรนด์เล็ก หรือใหญ่ แต่สนใจในเรื่อง Profile ,สินค้าที่มีคุณภาพ และสามารถการันตีผลตอบแทนการลงทุนให้ลูกค้าได้เป็นที่น่าพอใจ เพราะภาพรวมการขายอสังหาฯในจ.ภูเก็ต นั้น คือต้องพึ่งพาช่องทางการตลาดขายผ่านเอเยนต์ มากถึง 70% และบริษัทฯก็ประสบความสำเร็จในเรื่องดังกล่าว มีลูกค้าเข้าซื้อและใช้บริการโครงการอย่างต่อเนื่อง

โดยโครงการแรกที่พัฒนาในปี 2562 คือ อาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น บริเวณด้านหน้าถนนติดชายหาดในทอน จำนวน 20 ยูนิต แบ่งเป็น 3 คลัสเตอร์ๆละ 7-8 ยูนิต ซึ่งเป็นการขายเช่าระยะยาว 30 ปี ในราคา 7-8 ล้านบาท มูลค่าการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท แต่ปัจจุบันได้ปรับแผนการพัฒนาใหม่ โดยปล่อยเช่าพื้นที่ชั้นล่างในแต่ละยูนิตเป็นร้านค้าต่างๆ ราคาประมาณ 30,000 บาท/เดือน ซึ่งปัจจุบันมีผู้เช่าเต็มทั้งหมด ส่วนชั้น 2-3 ปล่อยเช่าเป็นโรงแรม ซึ่งมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งสิ้น 74 ห้อง ราคา 1,500-4,500 บาท/คืน แล้วแต่ช่วงฤดูกาล

ทั้งนี้ ในปี 2562 ต่อเนื่อง 2563 ได้นำที่ดินประมาณ 12 ไร่ มาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มทุนอสังหาฯจีน Bestart International Holdings มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ภายใต้แบรนด์ “ซีเฮฟเว่น ภูเก็ต ในทอน” (Seaheaven Phuket Naithon) แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส มูลค่าโครงการรวมว 1,500 ล้านบาท เน้นในรูปแบบของการขายเช่าระยะยาว 30 ปี + 30 ปี โดยเฟสแรก มีจำนวน 1 อาคาร สูง 5 ชั้น ขนาด 37-70 ตารางเมตร จำนวน 124 ยูนิต ระดับราคาตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป (ปัจจุบันราคาขายปรับขึ้นเป็นเริ่มต้นที่ 5-6 ล้านบาทขึ้นไปต่อยูนิต) ปัจจุบันปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนเฟส 2 เปิดการขายเมื่อปี 2566 เป็นคอนโดฯสูง 5 ชั้น ขนาด 30-70 ตารางเมตร จำนวน 127 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 4.5 ล้านบาทขึ้นไป หรือเริ่มต้นที่ 120,000-130,000 บาท/ตารางเมตรขึ้นไป(ปัจจุบันปรับขึ้นไปที่เริ่มต้น 170,000 บาท/ตารางเมตรขึ้นไป) ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 72%

เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า บริษัทฯจึงได้ดึงเชนโรงแรมแบรนด์ WYNDHAM เข้ามาบริหารโครงการด้วย โดยการันตีผลตอบแทนการลงทุนที่ 7% ต่อปี หลังนั้นในปีที่ 6 เป็นต้นไปก็จะแบ่งผลประกอบการจากการปล่อยเช่าห้องพัก ในสัดส่วน 30:70 โดยลูกค้าที่เป็นเจ้าของห้องพัก จะสามารถเข้าพักในช่วงไฮซีซันได้ 10 วัน/ปี และช่วงโลว์ซีซัน ได้ 20 วัน/ปี ซึ่งลูกค้าที่ซื้อและมาเช่าพักส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเศรษฐีรัสเซีย ที่มากันเป็นครอบครัว และมีความต้องการความเป็นส่วนตัวสูง โดยในช่วงก่อนและหลังเทศกาลปีใหม่ 15 วัน สามารถปล่อยเช่าได้ในเรท 70,000 บาท/เดือน สำหรับคอนโดฯในเฟสที่ 2 จะเริ่มทยอยโอนได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2568 นี้

นอกจากนี้ เมื่อปลายปี 2566 ได้ขยายฐานการพัฒนาเอง 100% ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เมอริส จำกัด ด้วยการนำที่ดิน 3 ไร่เศษ จากทั้งหมด 80 ไร่ มาพัฒนาวิลล่า แบรนด์ “ภูวิสต้า วิลล่า” ขนาด 70-160 ตารางวา ราคาขาย 32-72 ล้านบาท จำนวน 10 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 8 ยูนิต ลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย,โปแลนด์ และมีคนไทยซื้อเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น

ล่าสุดได้นำที่ดินอีก 4 ไร่ มาพัฒนาเป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ อีก 2 อาคาร ภายใต้แบรนด์ “Seaheaven” เฟส 3 ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มทุนจีนเช่นเดิม แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยเฟสแรกเป็นคอนโดฯ สูง 7ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 30-70 ตารางเมตร ราคาขายตั้งแต่ 3.9-8 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 108 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้วประมาณ 69%ส่วนเฟสที่ 2 จะพัฒนาเป็นคอนโดฯอีก 1 อาคาร จำนวน 115 ยูนิต โดยจะเปิดพรีเซลประมาณเดือนตุลาคม หรือ พฤศจิกายน 2568 นี้ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

สำหรับ แผนในระยะเวลา 2 ปีนี้ (2568-2569) มีแผนจะพัฒนาโครงการเองโดยไม่ได้ร่วมทุนกับพันธมิตร จำนวน 2 โครงการ โดยในปี 2568 นี้จะเป็นการพัฒนาโครงการ “ภูวิสต้า แอร์พอร์ต” ตั้งอยู่บริเวณหาดในยาง บนพื้นที่ 15 ไร่เศษ ห่างจากสนามบินภูเก็ต เพียง 5 นาที ในรูปแบบของวิลล่า ขนาดตั้งแต่ 60-100 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 15-35 ล้านบาท จำนวน 44 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลประมาณเดือนพฤษภาคม 2568 นี้

โดยปี 2569 มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูส บนแลนด์แบงก์ย่านหาดในทอน จากทั้งหมด 80 ไร่ โดยเริ่มจากการเปิดตัวคอนโดฯ แบรนด์ “แซง โทเปซ” (Saint Tropez) สูง 7 ชั้น ขนาด 30-70 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3.5-6 ล้านบาท จำนวน 100 ยูนิต มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท

- 030 

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • A5 ออกวอร์แรนท์ A5-W5 แจกฟรีผู้ถือหุ้นเดิม A5 ออกวอร์แรนท์ A5-W5 แจกฟรีผู้ถือหุ้นเดิม
  • PROUD จ่อเทรด ‘PROUD-W3’ มิถุนายนนี้ PROUD จ่อเทรด ‘PROUD-W3’ มิถุนายนนี้
  • CPANEL คว้างานรัฐ-เอกชนเพิ่มดัน Q2 พลิกมีกำไร CPANEL คว้างานรัฐ-เอกชนเพิ่มดัน Q2 พลิกมีกำไร
  • กลุ่มทรัพย์สถาพร รุกพัฒนาธุรกิจรับเมกะเทรนด์ - นิวเอสเคิร์ฟ กลุ่มทรัพย์สถาพร รุกพัฒนาธุรกิจรับเมกะเทรนด์ - นิวเอสเคิร์ฟ
  • ควอลิตี้เฮ้าส์ จัด ‘No Worry บ้านดี โปรเด็ด’  ลดสูงสุด 2 ล้านบาท ควอลิตี้เฮ้าส์ จัด ‘No Worry บ้านดี โปรเด็ด’ ลดสูงสุด 2 ล้านบาท
  • ‘ร่มโพธิ์’  เตรียมเปิด ‘เดอะ ไทเทิล วิลล่า เชิงทะเล’ ‘ร่มโพธิ์’ เตรียมเปิด ‘เดอะ ไทเทิล วิลล่า เชิงทะเล’
  •  

Breaking News

สวยฉ่ำมาก! 'เลดี้ปราง'เดินเล่นริมทะเลส่งรอยยิ้มสดใส

‘อนุทิน​‘ ติดตามโครงการป้องกันน้ำท่วม ‘ชุมชนเสนา - สามกอ’ เมืองกรุ่งเก่า

แฉละเอียดยิบ!!! เปิดโปงแก๊งคนบาป หากินกับ'วัดร้าง เจ้าที่แรง'พระยังอยู่ไม่ได้

เร่งกล่อม‘ทหารคลั่ง’มอบตัว หลังยิงกันเองที่ปัตตานี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved