วันพฤหัสบดี ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
ฮอนด้าเผยวิสัยทัศน์ใหม่ มุ่งสู่อนาคตพลังงานสะอาด เดินหน้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า

ฮอนด้าเผยวิสัยทัศน์ใหม่ มุ่งสู่อนาคตพลังงานสะอาด เดินหน้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า

วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 18.42 น.
Tag : นโยบาย ฮอนด้า มอเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า
  •  

บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด นำโดย นาย โทชิฮิโระมิเบะ ผู้อำนวยการ ประธานกรรมการบริหาร และตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร แถลงแนวทางการดำเนินธุรกิจของฮอนด้า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นที่การขับเคลื่อนด้วยยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีข้อสรุปดังนี้

1              การเปลี่ยนแปลงของตลาด EV และการปรับกลยุทธ์ทิศทางใหม่


ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง ผนวกกับความไม่แน่นอนทางธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชะลอตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากหลายปัจจัย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมที่เป็นพื้นฐานสำหรับการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานอย่างแพร่หลาย ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการค้าของประเทศต่าง ๆ ฮอนด้า จึงจำเป็นต้องสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ลูกค้า เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ผันผวน และไม่ใช่เพียงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า แต่ยังผนวกการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงด้วย เพื่อนำเสนอคุณค่าเหล่านั้นไปยังลูกค้าในวงกว้างได้มากยิ่งขึ้น พร้อมเข้าถึงได้ง่ายและจับต้องได้

โดย ฮอนด้า จะปรับกลยุทธ์ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ 2 ทิศทาง คือ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริด (HEV) ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ และเสริมรากฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง ผ่านการปรับพอร์ตโฟลิโอด้านระบบขับเคลื่อนใหม่ อีกทั้งเตรียมพัฒนาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ (ADAS) เจเนอเรชันใหม่ พร้อมผนวกความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ

รวมถึงปรับแผนเปิดตัวรถใหม่ เนื่องด้วยการชะลอตัวของตลาด EV ทั่วโลกที่ส่งผลให้เป้าหมายสัดส่วนยอดขาย EV ทั่วโลกของฮอนด้าในปี 2030 อาจต่ำกว่าเป้าหมาย 30% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า โดยนับจากนี้จะเน้นขุมพลังไฮบริด เป็นหลักในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริด (HEV) เจเนอเรชันใหม่ที่จะเปิดตัวตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป พร้อมเร่งขยายไลน์อัปไฮบริดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการปรับแนวทางนี้ ฮอนด้า ตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายในปี 2030 ให้มากกว่าระดับปัจจุบันที่ 3.6 ล้านคัน โดยมีเป้าหลักอยู่ที่ยอดขายรถยนต์ไฮบริด (HEV) ที่ 2.2 ล้านคัน

1              เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของรถยนต์ ผ่านการพัฒนาและประยุกต์ใช้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เจเนอเรชันใหม่อย่างแพร่หลาย

  • ฮอนด้า อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เจเนอเรชันใหม่ ที่สามารถช่วยในการขับขี่ได้ เช่น การเร่งและการบังคับเลี้ยวตลอดเส้นทาง ตามจุดหมายที่ผู้ขับขี่ป้อนลงในระบบนำทางไม่ว่าจะขับบนทางด่วนหรือถนนในเมือง ผ่านการต่อยอดองค์ความรู้ที่สั่งสมจากการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ
  • โดยฮอนด้ามีแผนในการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เจเนอเรชันใหม่ ในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถไฮบริด (HEV) รุ่นหลัก ๆ ที่เตรียมเปิดตัวในอเมริกาเหนือและญี่ปุ่น ในปี 2027
  • สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศจีนที่มีการเติบโตของเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างก้าวกระโดด ฮอนด้า มีแผนที่จะทำงานร่วมกับ Momenta Global Limited ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพของจีนที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ เพื่อพัฒนา ADAS รุ่นถัดไปที่เหมาะสมกับสภาพถนนในประเทศจีน และติดตั้งในรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นที่จะเปิดตัวในประเทศจีนในอนาคต

 2            เสริมแกร่งกลยุทธ์ EV

  • ฮอนด้า มุ่งพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบไฮบริด e:HEV ทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง ให้เป็นระบบ
    ขับเคลื่อนที่มีความก้าวหน้าในแง่มุมต่าง ๆ โดยพัฒนาต่อยอดบนระบบไฮบริด 2 มอเตอร์เดิม ผนวกเข้ากับ1) การพัฒนาแพลตฟอร์มเจเนอเรชันใหม่ที่ล้ำสมัย มีเสถียรภาพในการขับขี่และน้ำหนักที่ลดลง และ 2) ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนสี่ล้อ (Electric AWD) ที่พัฒนาใหม่ ที่มอบการควบคุมที่แม่นยำและการตอบสนองของมอเตอร์ที่ทันใจ
  • ตั้งเป้าพัฒนาระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เจเนอเรชันใหม่ ให้มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น 10% รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนให้กับรถไฮบริด (HEV) ของฮอนด้า และปรับต้นทุนของระบบฯ ลง 50% เมื่อเทียบกับระบบไฮบริดที่ติดตั้งในรถยนต์ที่เปิดตัวรุ่นปี 2018 และลดลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับระบบไฮบริดที่ติดตั้งในรถยนต์ที่เปิดตัวในปี 2023 ในรุ่นปัจจุบัน
  • สำหรับตลาดอเมริกาเหนือที่เป็นตลาดหลักของรถไฮบริด (HEV) ฮอนด้า มีแผนที่จะพัฒนาระบบไฮบริดสำหรับรถขนาดใหญ่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในตลาดนี้ โดยเตรียมที่จะติดตั้งในรถที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังของทศวรรษ 2020
  • มีแผนเปิดตัวรถไฮบริด (HEV) เจเนอเรชันใหม่ของฮอนด้า รวมทั้งหมด 13 รุ่นทั่วโลก ภายในระยะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2027 เพื่อขยายไลน์อัปไฮบริด (HEV) ให้ครอบคลุมและตอบรับกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

             

3          แนวคิดของฮอนด้า ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคแห่ง EV อย่างเต็มรูปแบบ

  • ฮอนด้า คาดว่าเป้าหมายสัดส่วนยอดขาย EV ทั่วโลกของฮอนด้าในปี 2030 อาจลดลงต่ำกว่าเป้าที่ 30% ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า เนื่องด้วยการชะลอตัวของตลาด EV ทั่วโลก
  • โดยยังคงเชื่อมั่นในแนวคิดว่ายานยนต์ไฟฟ้า (EV) คือหนทางสำคัญในการมุ่งสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ดังนั้นฮอนด้า จะยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการเตรียมรากฐานความพร้อมที่มั่นคง
    เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต
  • สำหรับไลน์อัป Honda 0 Series (ฮอนด้า ซีโร่ ซีรีส์) ที่นับเป็นเสาหลักของธุรกิจ EV ของฮอนด้าในอนาคต จะมีการเผยโฉมรถยนต์รุ่นแรกในไลน์อัปในปีหน้า ซึ่งฮอนด้า จะส่งมอบคุณค่า SDV (Software-Defined Vehicle) ที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละคนผ่านฟังก์ชัน “ultra-personal optimization” ผ่านการทำงานร่วมกันของระบบปฏิบัติการยานยนต์ ASIMO OS และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่/ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (AD/ADAS) ที่ได้นำเสนอไปในงาน CES 2025
  • นอกจากนี้ Honda 0 Series เจเนอเรชันถัดไป จะมาพร้อมสถาปัตยกรรมยานยนต์แบบ Centralized E&E Architecture เพื่อมอบระบบ AD/ADAS ที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น

4              บทสรุปการปรับกลยุทธ์ EV

  • ฮอนด้า มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ ที่มีเอกลักษณ์ สอดรับกับยุคสมัยแห่งยานยนต์อัจฉริยะ และผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อส่งมอบความสนุกสนานในการขับขี่ (Joy of Driving) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรถยนต์ฮอนด้า
  • เตรียมใช้โลโก้ H Mark ดีไซน์ใหม่ ในรถไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ของฮอนด้า ที่จะเริ่มเปิดตัว
    สู่ตลาดในปี 2027 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าในไลน์อัป Honda 0 Series ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้า สะท้อนสัญญะแห่งการเปลี่ยนผ่านในธุรกิจยานยนต์ของฮอนด้า

5             ระบบการผลิตและการจัดสรรทรัพยากรด้านการผลิต

  • มุ่งดำเนินงานตามกลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่นสูง โดยเตรียมจัดทำระบบการผลิตที่มีความยืดหยุ่น ที่สามารถปรับการผลิตได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการและเป้าการขายได้ ผ่านการสร้างสายการผลิตที่สามารถผลิตได้ทั้ง EV และ HEV เพื่อรองรับกับการเติบโตของการจำหน่ายรถไฮบริดอย่างต่อเนื่อง และเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าในระยะกลางถึงระยะยาว
  • พร้อมจัดตั้งห่วงโซ่อุปทานในแนวคิด “ผลิตสินค้าให้ใกล้ชิดลูกค้า” ซึ่งเป็นแนวคิดของ “การผลิตในท้องถิ่นเพื่อการบริโภคในท้องถิ่น” เพื่อเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานให้แข็งแกร่งขึ้น และสามารถรองรับกับทุกการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดได้ในอนาคต

2. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในธุรกิจรถจักรยานยนต์

สำหรับปีงบประมาณล่าสุด ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา ฮอนด้า มียอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์รวมทั้งสิ้น 20.57 ล้านคัน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของยอดขายรวมในตลาดรถจักรยานยนต์ทั่วโลก โดยความสำเร็จครั้งนี้ยังสร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน 37 ประเทศและภูมิภาคอีกด้วย ทั้งนี้ คาดว่าความต้องการในตลาดรถจักรยานยนต์จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดรถจักรยานยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก อันเนื่องมาจากการขยายตัวของประชากรและระดับรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดการณ์ว่า ยอดขายรวมของอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันประมาณ 50 ล้านคัน เป็น 60 ล้านคันภายในปี 2030

เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฮอนด้า ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจ ผ่านการออกแบบที่สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคทั่วโลก พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดหาวัตถุดิบและระบบการกระจายสินค้าที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม ฮอนด้า ได้เร่งการใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันในรุ่นเครื่องยนต์สันดาป (ICE) และการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ที่รองรับเชื้อเพลิงทางเลือก

สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ฮอนด้า ได้เริ่มวางจำหน่ายรุ่น Active e: และ QC1 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้มีการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศอินเดียเมื่อปีก่อน ขณะเดียวกัน ฮอนด้ายังได้เริ่มจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก อย่างรุ่น CUV e: และ ICON e: ในประเทศอินโดนีเซียเป็นแห่งแรก และมีแผนขยายตลาดต่อไปยังเวียดนาม ไทย และฟิลิปปินส์

สำหรับรุ่น CUV e: ฮอนด้ามีกำหนดวางจำหน่ายในภูมิภาคยุโรปและประเทศญี่ปุ่นภายในปีนี้ โดยฮอนด้าจะดำเนินการพัฒนาโมเดลไฟฟ้า พร้อมทั้งจัดตั้งโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะที่มีประสิทธิภาพสูงในประเทศอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปี 2028 ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยฮอนด้าวางแผนที่จะนำเสนอรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น พร้อมทั้งมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

เมื่อดำเนินการเช่นนี้แล้ว ฮอนด้าจะสามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความโดดเด่นและการพัฒนาระบบซัพพลายเชนที่ครอบคลุมทั้งในกลุ่มเครื่องยนต์สันดาป (ICE) และกลุ่มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยในระยะยาว ฮอนด้าตั้งเป้าสร้างฐานธุรกิจที่มั่นคงด้วยส่วนแบ่งตลาดระดับโลกที่ 50% และอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (ROS) มากกว่า 15% ภายในปีงบประมาณ 2531 (ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2031)                                 

3. กลยุทธ์ด้านการเงิน - การพัฒนากำไร การประเมินการลงทุนใหม่ และการจัดสรรการลงทุน

  • ฮอนด้า คาดการณ์ว่าจะเพิ่มผลกำไรของบริษัทฯ ภายในปี 2030 ด้วยแนวทางดังนี้
    1. การขยายธุรกิจรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่อง
    2. การลดต้นทุนในธุรกิจยานยนต์ที่เกี่ยวเนื่องกับการปรับใช้ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เจเนอเรชันใหม่และแพลตฟอร์มใหม่
    3. การเพิ่มยอดขายต่อหน่วยของรถไฮบริด (HEV) และจะยังคงมุ่งหน้าต่อไปเพื่อบรรลุเป้าหมาย ROIC (Return on Invested Capital) ของบริษัทที่ 10% สำหรับปีงบประมาณ 2031 (ปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2031)
  • สำหรับแผนการลงทุนในกลยุทธ์ด้าน EV ที่ประกาศไว้เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่า 10 ล้านล้านเยนฮอนด้า ได้ปรับลดวงเงินลงทุนลง 3 ล้านล้านเยน เหลือ 7 ล้านล้านเยน ภายในปีงบประมาณ 2031 (ปีงบประมาณที่สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2031) โดยเป็นผลจากการตัดสินใจเลื่อนโครงการสร้าง value chain สำหรับ EV แบบครบวงจรในประเทศแคนาดา รวมถึงการยืดเวลาในการสร้างโรงงานที่จะผลิต EV เฉพาะออกไปก่อน
  • สำหรับการเปลี่ยนแปลงการจัดสรรเงินทุนในช่วง 5 ปี นับจากปีงบประมาณ 2027 เป็นต้นไป ฮอนด้ามีเป้าหมายในการสร้างกระแสเงินสดรวมมากกว่า 12 ล้านล้านเยน โดยผสมผสานศักยภาพในการสร้างเงินสดอย่างมั่นคงจากธุรกิจรถจักรยานยนต์ควบคู่กับการเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าต่อหน่วย สำหรับการจัดสรรทรัพยากรจนถึงปีงบประมาณ 2031
  • ลดการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ EV ลง 3 ล้านล้านเยน โดยฮอนด้า คาดว่าจะเพิ่มการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรถยนต์ไฮบริด (HEV) เพียงเล็กน้อย โดยในส่วนของผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น ฮอนด้าจะยังคงรักษาเป้าหมายที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ และมุ่งมั่นให้ได้ผลกำไรให้มากกว่า 1.6 ล้านล้านเยน

เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่รวดเร็วและมีความผันผวน ฮอนด้าจะปรับปรุงการจัดสรรทรัพยากรอย่างยืดหยุ่นและทันการณ์ พร้อมทั้งจัดตั้งธุรกิจยานยนต์ที่พร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต และยังคงมุ่งเน้นการปรับปรุงผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้างรายได้ที่มั่นคงจากธุรกิจรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนแม้ในสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ฮอนด้าได้ตัดสินใจนำอัตราส่วนเงินปันผลต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (DOE) มาใช้ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการรักษาผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ ด้วยวิธีการนี้ ฮอนด้าจะสามารถเสริมสร้างโครงสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมทั้งมอบผลตอบแทนที่มั่นคงและต่อเนื่องแก่ผู้ถือหุ้นควบคู่กันไป

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • Volvo Roadshow 2025   อวดโฉมยานยนต์ไฟฟ้า  มอบสิทธิประโยชน์สูงสุดกว่า 1 ล้านบาท Volvo Roadshow 2025 อวดโฉมยานยนต์ไฟฟ้า มอบสิทธิประโยชน์สูงสุดกว่า 1 ล้านบาท
  • ฮอนด้า เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งไลน์อัป xEV พร้อมลุยปั้นแบรนด์ ฮอนด้า เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งไลน์อัป xEV พร้อมลุยปั้นแบรนด์
  • ฉางอาน ขนแสนยานุภาพ ร่วมงาน Motor Expo 2024  พร้อมเปิดตัว DEEPAL E07 ยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต! ฉางอาน ขนแสนยานุภาพ ร่วมงาน Motor Expo 2024 พร้อมเปิดตัว DEEPAL E07 ยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต!
  • โตโยต้า จับมือ OR ตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า Alive Charge ณ Toyota ALIVE โตโยต้า จับมือ OR ตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า Alive Charge ณ Toyota ALIVE
  • เปิดจอง !!  มินิ เอซแมน เอสอี ใหม่ เคาะราคาขาย 1.99  ล้านบาท เปิดจอง !! มินิ เอซแมน เอสอี ใหม่ เคาะราคาขาย 1.99 ล้านบาท
  • ลุยจัดงานอบรมความรู้พื้นฐาน สำหรับช่างเทคนิคยานยนต์ไฟฟ้า ลุยจัดงานอบรมความรู้พื้นฐาน สำหรับช่างเทคนิคยานยนต์ไฟฟ้า
  •  

Breaking News

‘สส.เดียร์’ยังเชื่อมั่น! 'อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์'ไม่ใช่ผู้ทุจริต

'ภูมิธรรม'เชื่อทนายเตรียมใช้หลักฐานใหม่สมัยนั่ง'พณ.'ระบายข้าว ต่อสู้คดียิ่งลักษณ์

เปิดเหตุผล‘เสียงข้างน้อย’ศาลปค.สูงสุด เพิกถอนคำสั่งคลัง‘ยิ่งลักษณ์’ลอยตัว ไม่ต้องชดใช้เงิน

ยาไอซ์ทะลัก! ทหารเรือบึงกาฬสกัดยึด 344 กิโลพร้อมผู้ต้องหาคาด่านมูลค่า 344 ล้าน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved