ค่ายตรีเพชรอีซูซุ กลับมาเขย่าตลาดรถอเนกประสงค์ (PPV) อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว MU-X รุ่น RS 3.0Ddi 4WD “The Next Peak” รุ่นใหม่ล่าสุด ที่อัดแน่นทั้งความสปอร์ต หรูหรา และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือกว่า
MU-X รุ่น RS โดดเด่นด้วยดีไซน์ ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ด้วยการอัปเกรดใหม่ ตั้งแต่หน้าตาไปจนถึงระบบควบคุม และเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ระดับสูง ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าใหม่ Black Diamond Grille วัสดุ Black Chrome พร้อมสัญลักษณ์ RS ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้า-ไฟท้ายดีไซน์ Dynamic Blade และเส้น Embrace Line ด้านหลัง กันชนหน้า Fighter Jet Style เสริมด้วย Air Curtain ลดแรงต้านลม และล้ออัลลอย RS ขนาด 20 นิ้ว รวมทั้ง สีใหม่ Eiger Gray Opaque และ หลังคาดำ Black Roof + สัญลักษณ์ RS สี Lime Green
ภายในห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เน้นความหรูหราและล้ำสมัย ตกแต่งด้วย Matte Silver และ Red Ambient Light เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง เบาะนั่ง 3 แถว นั่งสบายแม้ในแถวที่ 3 เข้าออกแบบ One Touch ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ MU-X ที่เหนือกว่าหลายค่ายในกลุ่ม PPV คอนโซลกลางขนาดใหญ่ ระบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบเสียงคุณภาพจาก Dynamic Surround Sound System
เครื่องยนต์ 3.0Ddi MAXFORCE เทอร์โบดีเซล 4 สูบ พละกำลัง 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที และแรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ REV Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย รวมถึง การติดตั้งครั้งแรกกับระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (ESP) ช่วยให้ขับสบาย คล่องตัว ทั้งในเมืองและนอกเมือง
MU-X RS ใหม่ มาพร้อมระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance System) รุ่นล่าสุด อาทิ ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน (LDP) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ELK) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKAS) ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามคันหน้า (TJA) ระบบปรับตั้งความเร็วแบบอัตโนมัติ (ACC) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย (RCTB) กล้อง 360 องศา และระบบอื่น ๆ มากถึง 17 ระบบ
ก่อนอื่นต้องยอมรับในความพีคของ MU-X RS ที่อัดแน่นความสปอร์ตหรูหรา ตลอดจนเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่ง RS Design รอบคัน เพิ่มความสปอร์ตพรีเมียม ทั้งภายนอกและภายใน สำหรับเส้นทางทดสอบ ผู้เขียนออกจากกรุงเทพฯ โดยมีจุดหมายปลายทางที่ สนามช้างฯ เซอร์กิต วมถึงแวะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมระยะทางกว่า 900 กม. กลับมาถึงกทม. น้ำมันถังเดียวยังเหลือ !!
ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร แรงบิดมากถึง 450 นิวตันเมตร ในช่วงรอบต่ำเพียง 1,600-2,600 รอบ/นาที ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะกับการออกตัว การเร่งแซง โดยไม่ต้องเค้นรอบสูง เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ REV Tronic ให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล พร้อม Paddle Shift ที่พวงมาลัย เพิ่มอารมณ์สปอร์ตและการควบคุมเกียร์ที่มั่นใจยิ่งขึ้น
เป็นครั้งแรกที่ MU-X รุ่น RS ติดตั้งระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ช่วยให้การควบคุมรถง่าย เบามือ ในความเร็วต่ำ และยังให้ความแม่นยำในความเร็วสูง ระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ และหลัง แบบ 5-Link พร้อมคอยล์สปริง ให้ความมั่นคง ทั้งขณะวิ่งทางตรง และความนุ่มนวลเมื่อเจอถนนลูกรัง หรือ ทางขรุขระ ในส่วนของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) พร้อม Terrain Command ผู้ขับสามารถเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนผ่านปุ่มควบคุมได้ทันใจ ได้แก่: 2H – ขับ 2 ล้อหลัง สำหรับทางเรียบทั่วไป, 4H – ขับ 4 ล้อความเร็วสูง สำหรับถนนลื่น ฝนตก และ 4L – ขับ 4 ล้อ ความเร็วต่ำ สำหรับเส้นทางออฟโรด เสริมด้วยระบบ Rough Terrain Mode ที่จะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเบรกโดยอัตโนมัติ
โดยสรุปแล้ว Isuzu MU-X 3.0Ddi MAXFORCE รุ่น RS เป็น PPV ที่ตอบโจทย์ได้ครบ ไม่ว่าจะเป็น สายลุย สายครอบครัว หรือ คนที่อยากได้รถที่สะท้อนความเท่ แต่ก็ไว้ใจได้ในทุกสถานการณ์ Isuzu MU-X รุ่นนี้ คือ การยกระดับที่แท้จริง สำหรับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,759,000 บาท ถ้าชอบต้องไปลองขับก่อนตัดสินใจ
นิติ โมราวรรณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี