นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการพัฒนาโปรเจ็กต์ใหญ่บนเกาะเต่า  “Koh Tao Lifestyle Development Complex” ศูนย์รวมโรงแรม และกิจกรรมท่องเที่ยวครบวงจร โดยล่าสุด GCAP ได้เตรียมจัดตั้งบริษัท “เต่า เอเอเอ็ม” / “TAO AAM” (Autonomous Air Mobility) เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อการท่องเที่ยวและการขนส่ง โดยร่วมลงทุนกับบริษัท แอเรียล ซี เวนเจอร์ส จำกัด โดย GCAP จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 51% และบริษัท แอเรียล ซี เวนเจอร์ส จำกัด ถือหุ้น 49% โดยมีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท และจะจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จ ภายในเดือน มิถุนายน 2568  พร้อมเดินหน้าโครงการ ต่อไปตามแผน

“สำหรับแผนธุรกิจของโครงการ “Koh Tao Lifestyle Development Complex” จะเป็นศูนย์รวมโรงแรม และ กิจกรรมท่องเที่ยวครบวงจรบนเกาะเต่า ซึ่งในโครงการจะประกอบไปด้วย โรงแรม, ลานจอดโดรนโดยสาร,  พิพิธภัณฑ์ กลางแจ้ง, ลานกิจกรรมเอนกประสงค์ และกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงผจญภัย (Adventure) เป็นต้น โดยบริษัทฯ พร้อมเปิดรับ ผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์เข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่โครงการ ซึ่งบริษัทฯ คาดหวังว่าจะพัฒนาโครงการนี้ ให้เป็นแลนด์มาร์ค แห่งใหม่ ที่ดึงดูดความสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะเต่า ให้เกิดประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับโลก” นายอนุวัตร กล่าว

สำหรับแผนธุรกิจของโครงการให้บริการอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อการท่องเที่ยวและการขนส่ง ในขั้นตอนต่อไป บริษัทฯ จะลงนามสั่งซื้อโดรนโดยสาร รุ่น EH-216S จาก EHang เพื่อนำเข้ามาในประเทศไทย ประมาณเดือน มิถุนายน 2568 โดยบริษัทฯ ได้เริ่มเตรียมนักบินและวิศวกรการบิน เพื่อส่งไปฝึกอบรมด้านการบินโดรนโดยสารกับ EHang และได้มีการประสานงานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT)  เพื่อยื่นขออนุญาตใบอนุญาตด้านการบิน กับ CAAT โดยอยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารร่วมกับ EHang อันประกอบด้วย 1. ใบรับรองแบบ (Type Certificate) 2. ใบรับรองการผลิต (Production Certificate) 3. ใบรับรองความสมควรเดินอากาศ (Standard Airworthiness Certificate) 4. ใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ (Air Operator Certificate - AOC) รวมถึง ผลการทดสอบด้านการบินใน 19 ประเทศทั่วโลกกว่า 66,000 เที่ยวบิน โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายจะดำเนินการตามขั้นตอนโดยเร็วที่สุด เพื่อเริ่มให้บริการ โดรนเพื่อการท่องเที่ยวที่เกาะเต่า และจะขยายการให้บริการไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีศักยภาพในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้พิจารณาธุรกิจการให้บริการโดรนเพื่อการขนส่งเพิ่มเติม เช่น การขนส่งทางการแพทย์ การขนส่งพัสดุ การขนส่งสินค้าอาหาร เป็นต้น ซึ่งสามารถขออนุญาตกับ CAAT เพื่อให้บริการได้เช่นกัน โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ  ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการ Koh Tao Lifestyle Development Complex และโครงการให้บริการโดรนโดยสารเพื่อการท่องเที่ยวและขนส่ง เป็นการดำเนินงานตามกลยุทธ Non-Lending Business ของบริษัทฯ โดยจะคำนึงถึงการสร้างรายได้ในระยะยาวอย่างมั่นคง และยึดผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ, ผู้ถือหุ้น และ ผู้มีส่วนได้เสียเป็นสำคัญ

-032