นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลุ่มแครนส์ (Cairns Group Ministerial Meeting) ครั้งที่ 44 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 ณ สำนักงานองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นควบคู่กับการประชุมใหญ่ OECD โดยมีรัฐมนตรีจากประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เพื่อหารือแนวทางการปฏิรูปกติกาการค้าสินค้าเกษตรโลกให้มีความเป็นธรรม โปร่งใส และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
นายพิชัย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่ประเทศสมาชิกกลุ่มแครนส์ร่วมกันแสดงจุดยืนผ่านแถลงการณ์ร่วม เพื่อเร่งผลักดันการเจรจาภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ให้มีความก้าวหน้า โดยเฉพาะใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การเปิดตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงของสินค้าเกษตรจากประเทศผู้ส่งออก
2. การลดการอุดหนุนภายในประเทศ ที่บิดเบือนกลไกการค้า 3. การแข่งขันด้านการส่งออกอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส ซึ่งเป้าหมายคือให้เกิดผลลัพธ์รูปธรรมในการประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 14 ที่จะจัดขึ้นในเดือนมีนาคม 2569 ณ สาธารณรัฐแคเมอรูน
“ในยุคที่โลกเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งโลกร้อน โรคระบาด ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ และการกีดกันทางการค้า ประเทศไทยเห็นความสำคัญของความร่วมมือในเวทีพหุภาคี เพื่อสร้างระบบการค้าที่เป็นธรรมและยั่งยืน โดยเฉพาะในภาคเกษตร ซึ่งกระทบต่อทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคทั่วโลก” นายพิชัยกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือแนวทางการทำงานเชิงรุกของกลุ่มแครนส์ในอนาคต โดยเน้นการสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีผลประโยชน์ร่วม เช่น กลุ่มแอฟริกา เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิรูปที่สมดุล ครอบคลุม และตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ วิกฤติอาหาร ความมั่นคงทางโภชนาการ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โดยกลุ่มแครนส์เป็นการรวมตัวของ 20 ประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรชั้นนำของโลก ได้แก่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา ชิลี โคลอมเบีย คอสตาริกา กัวเตมาลา อินโดนีเซีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ปารากวัย เปรู ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ อุรุกวัย เวียดนาม ยูเครน และไทย มีเป้าหมายร่วมกันเพื่อผลักดันให้เกิดระบบการค้าสินค้าเกษตรที่เสรี เป็นธรรม และสร้างผลประโยชน์ที่แท้จริงให้กับเกษตรกรและผู้บริโภคทั่วโลก
ทั้งนี้ในช่วงปี 2563–2567 มูลค่าการค้าสินค้าเกษตรและอาหารของโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 7.12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยกลุ่มแครนส์มีมูลค่าการค้ารวมเฉลี่ยปีละ 754,995 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 10.6% ของการค้าสินค้าเกษตรโลก สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มแครนส์ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่า การส่งออก ไทยส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังสมาชิกกลุ่มแครนส์เฉลี่ยปีละ 8,121.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 19.57% ของมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรของไทย ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่อินโดนีเซีย (34.20%) มาเลเซีย (16.36%) เวียดนาม (11.70%) สินค้าสำคัญ ได้แก่น้ำตาล ข้าว อาหารสัตว์ เครื่องดื่ม และซอสปรุงรส การนำเข้า ไทยนำเข้าสินค้าเกษตรจากกลุ่มแครนส์เฉลี่ยปีละ 8,131.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 42.46% ของมูลค่านำเข้าของไทยในกลุ่มสินค้าเกษตร แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ บราซิล (15.52%) ออสเตรเลีย (5.32%) เวียดนาม (4.74%) สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง ข้าวสาลี นมผง มะพร้าว เมล็ดกาแฟ และผลิตภัณฑ์
-031
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี