นายอรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้มือพันธมิตรธุรกิจใหม่ บริษัท มายกรีนวิลเลจ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในภูมิภาคตะวันออกของไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อร่วมกันยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยในเกาะภูเก็ตให้เป็น “จุดหมายแห่งการใช้ชีวิตลักชัวรีระดับโลก” มุ่งผสานความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ การพัฒนา และการบริหารจัดการโครงการที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม  โดยประเดิมร่วมพัฒนาโครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์แห่งใหม่ล่าสุด “Botanica Majestia (โบทานิก้า มาเจสเทีย)” วิลล่าหรูสไตล์โมเดิร์นบนทำเลศักยภาพ “เกาะแก้ว” ภูเก็ต

ทั้งนี้ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในการพัฒนาโครงการวิลล่าลักชัวรีบนเกาะภูเก็ต โบทานิก้าฯ ได้สะสมความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกทำเล การออกแบบ และการเข้าใจพฤติกรรมกลุ่มลูกค้าระดับบนทั้งชาวไทยและต่างประเทศอย่างลึกซึ้ง ‘เกาะแก้ว’ นับเป็นอีกหนึ่งทำเลที่เรามองว่าโดดเด่นที่สุดในเวลานี้ ทั้งจากศักยภาพของโลเคชันที่รวมทั้งความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตเชื่อมต่อเมือง สนามบิน และสถานศึกษานานาชาติได้อย่างลงตัว ตั้งอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางระหว่างตัวเมืองภูเก็ตและพื้นที่ชายฝั่งทิศตะวันตก ทำให้สามารถเข้าถึงทั้งหาดป่าตอง หาดกมลา และลากูน่าได้ในเวลาไม่เกิน 20 นาที ไปจนถึงความเงียบสงบที่หายากในพื้นที่ใกล้ตัวเมือง ย่านนี้จึงเป็นทำเลทองที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาโครงการระดับ Majestic Luxury ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งผู้อยู่อาศัยจริงและนักลงทุนในระยะยาว ความร่วมมือกับ มายกรีนทาวน์ ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญสู่การยกระดับการอยู่อาศัยระดับลักชัวรีบนเกาะภูเก็ตให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น

 นายอรรถสิทธิ์ กล่าวว่า จุดแข็งของเกาะแก้วอยู่ที่การเป็นพื้นที่ที่มอบความสงบและเป็นส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกันก็รายล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น British International School, Phuket (BISP) และ Finnway International School Phuket รวมถึงอยู่ใกล้สนามกอล์ฟระดับพรีเมียม และท่าเรือยอชต์ส่วนตัว ทำให้ดึงดูดทั้งนักลงทุนต่างชาติและผู้ซื้อบ้านระดับลักชัวรีที่ต้องการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ โดยไม่ต้องละทิ้งความสะดวกสบายแบบเมืองใหญ่ เชื่อมต่อทั้งเมืองภูเก็ต สนามบิน และแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสากล ‘เกาะแก้ว’ จึงกลายเป็นหนึ่งในทำเลที่มีอัตราการเติบโตของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพสูงในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ในระยะยาว เหมาะสำหรับทั้งการอยู่อาศัยจริง การพักผ่อนในรูปแบบวิลล่า และการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ลักชัวรี

นายเฉลิมพงษ์ ปทุมโชติสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มสายงานธุรกิจบ้านขาย บริษัท มายกรีนวิลเลจ จำกัด มายกรีนทาวน์ มีประสบการณ์ยาวนานในการลงทุนและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออก ด้วยความเข้าใจทั้งการวางแผนการลงทุนและการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เรามั่นใจว่าความร่วมมือกับโบทานิก้าฯ ในครั้งนี้จะช่วยเติมเต็มศักยภาพในการพัฒนาโครงการ ‘Botanica Majestia’ ให้เป็นโครงการวิลล่าลักชัวรีที่โดดเด่นทั้งด้านดีไซน์และคุณภาพที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลทอง ‘เกาะแก้ว’ ซึ่งถือเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงและตอบโจทย์นักลงทุนระดับโลกได้อย่างครบถ้วน ความร่วมมือของเราครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการสร้างบ้านที่สวยงาม แต่ยังเป็นการสร้างมูลค่าและโอกาสทางธุรกิจที่มั่นคงในระยะยาว

โครงการ Botanica Majestia ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Majestic Serenity in Tropical Living” เน้นการถ่ายทอดความสง่างามท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวชอุ่ม ผสานความหรูหราร่วมสมัยกับความเงียบสงบอย่างมีรสนิยม Botanica Majestia ประกอบด้วยวิลล่าหรูสไตล์ Modern Luxury จำนวน 33 ยูนิต บนพื้นที่ดินรวมทั้งสิ้น 23,046.14 ตารางเมตร โดยแต่ละหลังมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 380 ถึง 615 ตารางเมตร เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มองหาทั้งความเป็นส่วนตัว ความหรูหรา และความกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างลงตัว ทั้งนี้ Botanica Majestia มีกำหนดจะเปิดเผยรายละเอียดโครงการอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2568 คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สร้างแรงกระเพื่อมในวงการอสังหาริมทรัพย์หรูของภูเก็ต

สำหรับความร่วมมือเพื่อพัฒนา Botanica Majestia นับเป็นการผนึกกำลังของสองผู้นำในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีวิสัยทัศน์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างลึกซึ้ง โดย โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งด้านวิลล่าลักชัวรีในภูเก็ต ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี และผลงานระดับสากลกว่า 27 โครงการ ที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น Best Luxury Villa Developer, Thailand 2023 และ Top 100 of The World Real Estate Brokers and Developers จาก Luxury Lifestyle Awards ขณะที่ มายกรีนทาวน์ สร้างชื่อด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออกของไทย ด้วยแนวคิด “บ้านที่คุณชอบ บนทำเลที่ใช่” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

นายเฉลิมพงษ์ กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นการต่อยอดศักยภาพของทั้งสองแบรนด์ เพื่อยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยในภูเก็ต และเปิดประตูสู่โอกาสการลงทุนที่มั่นคงและเติบโตในระยะยาว พร้อมรองรับดีมานด์จากทั้งนักลงทุนชาวไทยและต่างชาติที่มองหาไลฟ์สไตล์เหนือระดับท่ามกลางธรรมชาติ

-031