‘บขส.-ไปรษณีย์ไทย’ขานรับนโยบายรัฐบาล เร่งขับเคลื่อนแผนธุรกิจรับ-ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ แบบ Hub To Door หวังผู้ใช้บริการสะดวกขึ้นยกระดับขนส่งสินค้าไทย สู่ความต้องประชาชนที่เพิ่มขึ้น

11 มิถุนายน 2568 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับบริการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และสนับสนุนเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนของประเทศ รัฐบาล โดย บริษัท ขนส่ง จํากัด กระทรวงคมนาคม บูรณาการความร่วมมือ ไปรษณีย์ไทย ขับเคลื่อนการพัฒนาแผนธุรกิจรับ – ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ถึงบ้าน แบบ Hub To Door ซึ่งคาดว่าจะเปิดแน่นอนในปีนี้ หวังผู้ใช้บริการสะดวกขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพของสถานีเดินรถส่วนภูมิภาค และรองรับความต้องการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นของประชาชน

ปัจจุบันระบบการขนส่งสินค้าถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย จากแนวโน้มการเติบโตที่รวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้เกิดความท้าทายทั้งจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของการขนส่งพัสดุภัณฑ์ ระบบการขนส่ง และความต้องการขนส่งของประชาชนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เพื่อความพร้อมรองรับความต้องการการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการใช้บริการ ปัจจุบัน บขส. ได้มีศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ในภูมิภาค จำนวน 16 แห่ง ได้แก่

1.ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ (จตุจักร) 2.ศูนย์ฯ สายใต้ (บรมราชชนนี) 3.ศูนย์ฯ รังสิต 4.ศูนย์ฯ จ.เชียงราย 5.ศูนย์ฯ จ.เชียงใหม่ 6.ศูนย์ฯ จ.นครพนม 7.ศูนย์ฯ จ.หนองคาย 8.ศูนย์ฯ จ.มุกดาหาร 9.ศูนย์ฯ หาดใหญ่ จ.สงขลา 10.ศูนย์ฯ จ.ภูเก็ต

11.ศูนย์ฯ จ.เพชรบุรี 12.ศูนย์ฯ จ.สุราษฎร์ธานี 13.ศูนย์ฯ จ.ปัตตานี 14.ศูนย์ฯ จ.นครสวรรค์ 15.ศูนย์ฯ จ.สกลนคร และ 16.ศูนย์ฯ จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ สามารถใช้บริการ รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ ที่สถานีเดินรถ บขส. อีก 93 แห่งทั่วประเทศ โดยนอกจากนี้ บขส. ยังได้เปิดให้บริการ รถพัสดุภัณฑ์ 6 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ – เชียงใหม่, กรุงเทพฯ – แม่สาย, กรุงเทพฯ – หนองคาย, กรุงเทพฯ – นครพนม, กรุงเทพฯ – อุบลราชธานี และ กรุงเทพฯ – หาดใหญ่

สำหรับอัตราค่าบริการรับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ เช่น ขนาดเล็กสุด กล่อง A ไม่เกิน 50 เซนติเมตร (ซม.) น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม (กก.) ค่าบริการเริ่มต้นที่ 30 บาท ส่วนการขนส่งรถจักรยานยนต์ คิดราคาตามขนาดเครื่องยนต์ เช่น เครื่องยนต์ไม่เกิน 110 ซีซี ค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,300 บาท ขณะที่รถจักรยานทุกชนิด คิดตามขนาด เช่น ขนาดเล็กสุด ไม่เกิน 14 นิ้ว ค่าบริการเริ่มต้นที่ 200 บาท อย่างไรก็ตามสำหรับเงื่อนไขการให้บริการรับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ เช่น พัสดุต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 50 กก. ไม่รับฝากวัตถุอันตราย วัตถุไวไฟทุกชนิด สิ่งของผิดกฎหมาย สารเสพติด และมีประกันความเสียหายตามมูลค่าของที่ฝากส่งแต่ไม่เกิน 1,000 บาท

“การขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทันสมัย ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมการค้าขายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งระบบการขนส่งที่ดีจะช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันของสินค้าไทย เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและการขยายธุรกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยได้สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ บขส. จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 – 20.00 น.”

นอกจากนี้ผู้ใช้บริการยังสามารถติดตามตรวจสอบสถานะพัสดุภัณฑ์ได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. เข้าเว็บไซต์ บริษัท ขนส่ง จำกัด www.transport.co.th 2. เลือก บขส. บริการ ตรวจสอบสถานะพัสดุภัณฑ์ จะปรากฏหน้าจอ ระบบติดตามพัสดุ ให้กรอกรายละเอียด เลขที่ ใบเสร็จรับเงิน (เฉพาะตัวเลขและขีดขั้นกลาง (-) และ รหัสอ้างอิง จากนั้นจะปรากฏหน้าจอ แถบแสดงสถานะพัสดุ  หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ (จตุจักร) โทร. 0 2537 8480 ศูนย์รับ – ส่ง พัสดุภัณฑ์ (รังสิต) โทร. 0 2901 2673 ศูนย์รับ – ส่งพัสดุภัณฑ์ สายใต้ (บรมราชชนนี) โทร. 0 2422 4413

-005